นางสาวโศภชา ดำรงปิยวุฒิ์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง (GUNKUL) เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจในศักยภาพการเติบโตของรายได้และกำไรสุทธิในปี 62 ของกลุ่มบริษัทจะเติบโตอย่างโดดเด่น โดยตั้งเป้ารายได้รวมแตะระดับ 7,500 ล้านบาท หรือเติบโต 25% เนื่องจากทยอยรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานลม ที่ดำเนินการจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) เต็มปี และปีนี้คาดว่าจะจำหน่ายไฟฟ้า เพิ่มอีกกว่า 100 เมกะวัตต์ (MW) รวมถึงธุรกิจเทรดดิ้ง และธุรกิจรับเหมาก่อสร้างที่ยังคงมีการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ในเดือน ก.พ.62 บริษัทจะดำเนินการ จำหน่ายไฟฟ้า โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ คิมิตสึ ที่ประเทศญี่ปุ่นเพิ่มอีก 35 เมกะวัตต์ และยังมีโครงการ CPF Solar Rooftop ขนาดกำลังการผลิต 30 เมกะวัตต์ ที่จะทยอยจำหน่ายไฟฟ้า เข้ามาเพิ่มเติมตลอดทั้งปี ส่วนโครงการโซลาฟาร์มที่มาเลเซีย คิดเป็นกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัดส่วนการถือหุ้นราว 70% กำลังการผลิตรวม 21 เมกะวัตต์ คาดว่าจะสามารถจำหน่ายไฟฟ้าได้ในช่วงปลายปี 62
สำหรับในไตรมาส 1/62 บริษัทยังมีงานประมูลรับเหมาและวางระบบทางด้านวิศวกรรม (EPC) หลายโครงการ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 3,000 ล้านบาท คาดว่าจะประมูลงานได้ไม่ต่ำกว่า 30% ซึ่งปัจจุบันธุรกิจ EPC มีปริมาณงานในมือ (Backlog) 800 ล้านบาท ส่วนทั้งปีนี้มีแผนประมูลงาน EPC ในโครงการต่าง ๆ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 30,000 ล้านบาท แบ่งเป็น โครงการนำสายไฟฟ้าลงดินและโครงการติดตั้งสถานีไฟฟ้าย่อย ซึ่งจะเข้ามาช่วยเพิ่มศักยภาพรายได้และกำไรในอนาคตให้เติบโตเพิ่มขึ้น
นางสาวโศภชา กล่าวว่า บริษัทตั้งงบลงทุนในปี 62-64 ไว้ที่ระดับ 20,000 ล้านบาท เพื่อรองรับแผนขยายกำลังการผลิตไฟฟ้า ทั้งในและต่างประเทศ ประมาณ 15,000 ล้านบาท โดยปีนี้บริษัทจะมีการลงทุนโครงการใหม่ ๆ ไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท
ปัจจุบันบริษัทมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ในมือรวมประมาณ 550 เมกะวัตต์ โดยยังคงเป้าหมายภายในปี 64 จะมี PPA เพิ่มเป็น 1,000 เมกะวัตต์ หรือเพิ่มปีละ 150 เมกะวัตต์
"ปีนี้บริษัทตั้งเป้าได้โครงการใหม่ ๆ เข้ามาทุกไตรมาส เนื่องจากยังมีอีกหลายโครงการที่อยู่ระหว่างการประมูล ส่งผลทำให้ผลการดำเนินงานเติบโตอย่างแข็งแกร่งทุกไตรมาส และจะเป็นปีที่รายได้และกำไรเติบโตอย่างโดดเด่น บริษัทมีแผนเข้าลงทุนโครงการพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม รวมถึงโครงการต่าง ๆ ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยเฉพาะในต่างประเทศ เพื่อผลักดันให้รายได้และกำไรในอนาคตเติบโตอย่างแข็งแกร่ง"นางสาวโศภชา กล่าว