ผู้บริหาร EARTH เคลียร์ใจ ผถห.พร้อมร่วมกอบกู้บริษัท มั่นใจศักยภาพพร้อมดันธุรกิจเติบโต

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday January 14, 2019 16:53 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

รายงานข่าวจากบมจ.เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ (EARTH) เปิดเผยว่า กลุ่มผู้ถือหุ้นของบริษัท นำโดยนายสิทธิชัย เจิดอำไพ ได้เข้าพบนายสาวิน จินดากุล ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการบริษัท และนายขจรพงศ์ คำดี อดีตประธานกรรมการบริหาร เพื่อติดตามความคืบหน้าในการเจรจาขอวงเงินสินเชื่อกับสถาบันการเงิน และแผนการปรับโครงสร้างหนี้กับสถาบันการเงินภายหลังจากเข้าพบธนาคารกรุงไทย (KTB)

ผู้บริหารบริษัทระบุว่าขณะนี้อยู่ระหว่างรอกลุ่มธนาคารประชุมเกี่ยวกับกระบวนการควบคุมการเงินและกระแสเงินสด (Cash Monitoring) ให้แล้วเสร็จ ซึ่งหากกลุ่มธนาคารเรียกเข้าร่วมประชุม บริษัทก็พร้อมร่วมประชุมเพื่อรับฟังกระบวนการต่าง ๆ เพื่อให้ธุรกิจเดินหน้าโดยเร็วตามแผนที่ได้แจ้งไว้แก่ผู้ถือหุ้นสามัญเมื่อวันที่ 24 ธ.ค.61

ทั้งนี้ หากยังไม่ได้รับแจ้งให้เข้าร่วมประชุมภายในสิ้นเดือน ม.ค.นี้ บริษัทจะดำเนินการเจรจากับธนาคารเป็นราย ๆ ไป และไม่รอมติจากคณะกรรมการร่วมของธนาคารที่กำลังเจรจากันอยู่ เนื่องจากบริษัทเห็นว่าหากปล่อยเวลาเนิ่นนานไปอาจทำให้เสียโอกาสทางธุรกิจ ซึ่งผู้ถือหุ้นพอใจกับคำตอบที่ได้รับและจะเฝ้าติดตามความคืบหน้าจากสถาบันการเงินต่อไป

สำหรับประเด็นการตัดวงเงินสินเชื่อจากสถาบันการเงินแห่งหนึ่ง ผู้บริหารบริษัทแจ้งว่าอดีตประธานกรรมการบริหารของบริษัท ได้รับหมายเรียกให้เป็นพยานในคดีที่ผู้ถือหุ้นฟ้องธนาคารกรุงไทยแบบกลุ่ม (Class Action) เรื่องการตัดวงเงินสินเชื่อจนเป็นเหตุให้บริษัท และผู้ถือหุ้นได้รับความเสียหาย โดยจะไปเป็นพยานในวันที่ 13 ก.พ.62 ที่ศาลแพ่งกรุงเทพใต้

ส่วนการอายัดบัญชีเงินฝากธนาคารธนชาตเมื่อเดือน ธ.ค.61 ที่ผ่านมา อาจทำให้ผู้ถือหุ้นกู้บางส่วนที่จะได้รับเงินในวันที่ 25 ก.พ.62 ไม่ได้รับเงิน ซึ่งผู้บริหารบริษัท ได้แจ้งว่าฝ่ายกฎหมายของบริษัท ได้ทำเรื่องขอให้ยกเลิกคำสั่งอายัดและจะมีการไต่สวนในวันที่ 23 ม.ค.62 ที่ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ และได้แจ้งแก่ผู้ถือหุ้นเพิ่มเติมว่าอดีตประธานกรรมการบริหารของบริษัท ได้รับหมายเรียกให้ไปเป็นพยานในคดีอาญาที่ผู้ถือหุ้นรายหนึ่งได้ฟ้องผู้บริหารธนาคารกรุงไทย 2 คนในคดีเบิกความเท็จต่อศาล กระทั่งศาลทรัพย์สินและการค้าระหว่างประเทศเชื่อและมีคำสั่งอายัดเงินในบัญชี โดยได้ไปเบิกความเป็นพยานแล้วที่ศาลอาญารัชดาเมื่อเดือน พ.ย.61 และศาลนัดฟังคำสั่งว่ามีมูลหรือไม่ในวันที่ 14 ก.พ.62

ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้เป็นเหตุแห่งการขออายัดจากสถาบันการเงินได้อีก คณะกรรมการบริษัท จึงได้มีมติให้ยกเลิกการโอนเงิน เพื่อทำการค้าไปยังบริษัทย่อยที่ประเทศจีน ซึ่ง Earth ถือหุ้น 100% ตามที่ได้รับการอนุมัติจากธนาคารแห่งประเทศไทยและธนาคารแห่งประเทศจีนแล้วนั้น โดยให้นำเงินดังกล่าวไปทำธุรกิจภายใต้บริษัท Earth

ขณะที่ประเด็นการยื่นอุทธรณ์แผนฟื้นฟูกิจการนั้น ผู้บริหารบริษัท แจ้งผู้ถือหุ้นว่าฝ่ายกฎหมายของบริษัทจะดำเนินการในสิ่งที่เกิดประโยชน์สูงสุดแก่บริษัท และผู้ถือหุ้น และเห็นด้วยกับแนวทางที่ผู้ถือหุ้นนำเสนอ ซึ่งขณะนี้รอดูแนวโน้มของเจ้าหนี้รายใหญ่ว่าจะดำเนินการอุทธรณ์หรือไม่ เพื่อจะได้ประสานเข้าปรึกษาหารือกันต่อไป

ส่วนประเด็นการตรวจสอบเหมืองถ่านหินที่ประเทศอินโดนีเซียของบริษัท ที่พบว่ามีอยู่จริงและเป็นเจ้าของ 100% โดยมีปริมาณสำรองถ่านหินอยู่กว่า 214,000,000 ตันนั้น บริษัทแจ้งผู้ถือหุ้นว่า ที่ผ่านมาบริษัท ไม่ได้ตอบโต้ผ่านสื่อจึงทำให้ได้รับข่าวสารด้านลบเพียงด้านเดียว ซึ่งช่วงนั้นบริษัทต้องปฏิบัติตามคำสั่งของศาลโดยห้ามให้ข่าวในเชิงกระทบกระทั่งกัน ทั้งนี้ ผู้บริหารชี้แจงว่า ขณะนี้บริษัทได้ฟ้องดำเนินคดีแก่สถาบันการเงินแห่งหนึ่งไปแล้ว ประเด็นการตัดเงินจากบัญชีเงินฝากธนาคารของบริษัท หลังจากศาลล้มละลายกลางได้รับเรื่องการยื่นขอฟื้นฟูกิจการและได้รับการคุ้มครอง ขณะนี้อยู่ในกระบวนการของศาล และได้ยืนยันกับผู้ถือหุ้นว่า บริษัทจะมีการดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและอาญากับบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องทำให้บริษัทเสื่อมเสียชื่อเสียงในเร็วๆนี้ ทำให้ผู้ถือหุ้นพอใจและยินดีมาร่วมช่วยกอบกู้บริษัทให้กลับมาดำเนินธุรกิจและซื้อขายได้ดังเดิม

อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารมีความมั่นใจว่าบริษัท ยังมีศักยภาพและความแข็งแกร่ง สามารถดำเนินธุรกิจให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งธุรกิจถ่านหินในประเทศจีนมีคำสั่งซื้อเข้ามาเพิ่มมากขึ้น ส่วนที่ประเทศไทยคาดว่าจะมีการส่งสินค้า (Shipment) แรกในเดือนมกราคมนี้ หรืออย่างช้าไม่เกินเดือนกุมภาพันธ์ เพื่อทวงแชมป์ประเทศไทยคืนตามที่ได้มีการแจ้งไว้ในที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 24 ธ.ค.61


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ