"แอล เอช ฟันด์"ออกกองทุนหุ้นปันผล พร้อมรับสิทธิ์ประกันคุ้มครองสุขภาพ เปิดขาย 17-29 ม.ค.

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday January 16, 2019 11:22 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายมนรัฐ ผดุงสิทธิ์ กรรมการผู้อำนวยการ บลจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (แอล เอช ฟันด์) ในกลุ่มบมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH) เปิดเผยว่า แอล เอช ฟันด์ ออกกองทุนเปิด แอล เอช หุ้นปันผล พลัส (LH EQUITY DIVIDEND PLUS FUND : LHEQDPLUS) ซึ่งเป็นกองทุนที่ลงทุนในหุ้นที่มีประวัติการจ่ายเงินปันผลและมีแนวโน้มการจ่ายเงินปันผลที่ดี โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม เสนอขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 17-29 ม.ค.62 หลังมองตลาดหุ้นที่ค่อนข้างผันผวนจะเป็นโอกาสดีสำหรับนักลงทุนที่จะลงทุนในหุ้นกลุ่มปันผล (High Dividend Stock)

สำหรับหลักเกณฑ์การลงทุนของกองทุน LHEQDPLUS จะคัดเลือกหุ้นที่มีประวัติการจ่ายเงินปันผลในอดีตย้อนหลังอย่างน้อย 1-3 ปี และ/หรือแนวโน้มการจ่ายเงินปันผลในอนาคต และ/หรือผลประกอบการในอดีต และ/หรือผลประกอบการปัจจุบัน และ/หรือแนวโน้มการเติบโตในอนาคต โดยจะมีการพิจารณาเลือกลงทุนให้สอดคล้องตามเกณฑ์ที่กำหนด และพิจารณาปรับหลักทรัพย์ที่ลงทุนให้สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจของประเทศ

จุดเด่นของกองทุนนอกจากจะลงทุนเพื่อโอกาสรับผลตอบแทนจากหุ้นที่ลงทุนแล้ว ผู้ลงทุนยังได้รับสิทธิ์ประกันคุ้มครองสุขภาพตลอดอายุการลงทุนกับ แอล เอช ฟันด์ เมื่อลงทุนตั้งแต่ 150,000 บาทขึ้นไป (เงื่อนไขความคุ้มครองเป็นไปตามที่กำหนดในกรมธรรม์)

นายมนรัฐ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยยังมีแนวโน้มผันผวนตามตลาดหุ้นต่างประเทศ ทั้งจากผลของเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง ความไม่แน่นอนของนโยบายทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ และสภาพคล่องโดยรวมที่ลดลง อย่างไรก็ดี หากพิจารณาถึงอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจไทยที่มีแนวโน้มขยายตัวได้ 3.5-4% แม้ว่าภาคต่างประเทศจะมีแนวโน้มชะลอตัวลงจากภาคการส่งออก แต่การเติบโตภายในประเทศยังขยายตัวได้ดีจากการบริโภคและการลงทุนในประเทศ โดยคาดการณ์อัตราการเติบโตของกำไรบริษัทจดทะเบียนในปี 2562 ที่ 4-6%

นอกจากนี้ แนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของไทยยังเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป ทำให้อัตราผลตอบแทนจากตลาดตราสารหนี้ยังไม่น่าสนใจมากนัก เมื่อพิจารณาถึงมูลค่าจากปัจจัยพื้นฐาน ตลาดหุ้นไทยได้รับรู้ถึงปัจจัยลบมาค่อนข้างมากแล้ว โดยปัจจุบันอัตราส่วนราคาต่อกำไรในปี 2562 (Forward PE) อยู่ที่ 13.8x ซึ่งเป็นระดับค่าเฉลี่ยในระยะยาว ทั้งนี้ แอล เอช ฟันด์ คาดว่า SET Index มีโอกาสเคลื่อนไหวในกรอบกว้างที่ 1,500-1,750 จุด ในช่วงปี 2562

ทั้งนี้ ด้วยภาพของตลาดหุ้นที่ค่อนข้างผันผวน จึงแนะนำกลยุทธ์การลงทุน โดยเน้นลงทุนในหุ้นที่มีรายได้มั่นคง และจ่ายปันผลสม่ำเสมอ เพื่อลดความผันผวนของราคาหุ้น เช่น กลุ่มสาธารณูปโภค เนื่องจากได้รับผลกระทบเชิงลบจากเศรษฐกิจน้อย และกลุ่มหุ้นที่จ่ายปันผลสูง (High Dividend Stock) เพราะมีแนวโน้มปรับตัวดีกว่าหุ้นเติบโต (Growth Stock) เนื่องจากในภาวะตลาดหุ้นผันผวนนักลงทุนจะต้องการกระแสเงินสดที่ค่อนข้างแน่นอนจากเงินปันผล มากกว่ากำไรจากส่วนต่างของราคาของหุ้นเติบโตที่มีความไม่แน่นอน โดยข้อมูล ณ วันที่ 9 ธ.ค. 61 SETHD Index ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลประมาณ 4.6% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี ของไทย ให้ผลตอบแทนที่ 2.55%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ