ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,569.25 จุด ลดลง 7.75 จุด (-0.49%) มูลค่าการซื้อขาย 19,517.81 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยดัชนีปรับตัวขึ้นทำระดับสูงสุดที่ 1,582.19 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ระดับ 1,568.22 จุด
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน(ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงค่อนข้างจะสอดคล้องกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบคละกัน โดยผลโหวตร่างข้อตกลงการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ไม่น่าจะมีผลต่อตลาดฯมาก แต่นักลงทุนให้ความกังวลเกี่ยวกับการเลือกตั้งในประเทศที่ยังไม่กำหนดวันเลือกตั้ง และยิ่งล่าช้าก็ยิ่งมีความกังวลมากขึ้น ทำให้มีผลต่อตลาดหุ้นไทยที่จะเห็นได้ว่าในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาดูอ่อนกว่าตลาดต่างประเทศ
นอกจากนี้ ตลาดบ้านเราก็เผชิญแรงกดดันจากปัจจัยที่เข้ามากระทบในแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรม อย่างกลุ่มการเงินก็มีความกังวลเรื่อง NPL ที่จะเพิ่มขึ้น หลังจากที่งบฯของ TISCO ออกมาแล้วแสดงให้เห็นว่า NPL เพิ่มขึ้น ทำให้วันนี้ KTC, MTC, SAWAD อ่อนแรงลงจากความกังวล NPL เพิ่มขึ้น แม้ว่ากำไรจะยังเติบโตก็ตาม อีกทั้งในส่วนของการจะเรียกคืนคลื่น 700 MHz เพื่อประมูล 5G และมาตรการเยียวยาทีวีดิจิทัล ก็ทำให้หุ้นในกลุ่มทีวีดิจิทัล และกลุ่มสื่อสารมีความผันผวน โดยกลุ่มทีวีดิจิทัลก็เก็งผลบวกในระยะสั้นจากมาตรการเยียวยา ส่วนกลุ่มสื่อสารก็มีความกังวลจากภาระที่จะเกิดขึ้น ซึ่ง DTAC และ TRUE ก็อยู่ในภาวะที่เงินสดตึงตัวด้วย ทำให้ราคาหุ้นในกลุ่มสื่อสารปรับตัวลงในวันนี้
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายกิจพณ กล่าวว่า บรรยากาศของตลาดฯไม่สดใสเท่าไร พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,565-1,582 จุด โดยหากดัชนีฯลงมาต่ำกว่าระดับ 1,565 จุด ก็แนะนำให้ชะลอการลงทุนเพื่อรอดูสถานการณ์ก่อน
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
IVL มูลค่าการซื้อขาย 1,229.81 ล้านบาท ปิดที่ 47.00 บาท ลดลง 0.50 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,131.07 ล้านบาท ปิดที่ 47.25 บาท ลดลง 0.50 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 936.14 ล้านบาท ปิดที่ 74.00 บาท ลดลง 0.25 บาท
TRUE มูลค่าการซื้อขาย 899.52 ล้านบาท ปิดที่ 4.58 บาท ลดลง 0.18 บาท
BDMS มูลค่าการซื้อขาย 822.29 ล้านบาท ปิดที่ 23.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท