นายธนวัฒน์ เลิศวัฒนารักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ เวนเจอร์ส จำกัด (JVC) ในกลุ่ม บมจ.เจมาร์ท (JMART) ซึ่งเป็นผู้ออกโทเคนดิจิตัล JFIN Coin กล่าวว่า กรณีที่กระทรวงการคลังปฏิเสธการให้ใบอนุญาตบริษัท คอยน์ แอสเซท จำกัด (Coin Asset) ส่งผลให้คอยน์ แอสเซท ต้องยุติการประกอบธุรกิจตั้งแต่วันที่ 21 ม.ค.62 จึงกระทบต่อการซื้อขาย JFIN Coin บนกระดานซื้อขายดังกล่าว
สำหรับผู้ที่ถือโทเคน ดิจิตัล JFIN Coin ที่ปัจจุบัน มีการซื้อขายโทเคน ดิจิทัล บนกระดาน คอยน์ แอสเซท สามารถนำโทเคนดิจิตัล ไปไว้ใน Digital Wallet ซึ่ง JFIN Coin ได้พัฒนาให้สามารถสนับสนุน ERC-20 ของ Ethereum จึงสามารถนำโทเคนดิจิตัลไปเก็บไว้บน Digital Wallet เพื่อเตรียมนำไปเทรดในกระดานซื้อขายอื่นๆ ที่ทาง JFIN Coin จะนำไปเปิดการซื้อขายซึ่ง JVC จะมีการประกาศต่อไป
ทั้งนี้ Digital Wallet ที่สามารถใช้เก็บ JFIN Coin ได้แก่ 1) JFIN Wal-let ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้จาก App Store (ระบบ iOS) หรือ Play Store (ระบบ Android) โดยเหรียญของท่านจะอยู่บนระบบของ JFIN 2) Hardware Wallet ด้วย Ledger Nano S โดยผู้ถือเหรียญจะต้องมี Hardware Wallet เพื่อนำเหรียญของท่านไปเก็บเอาไว้เป็นการส่วนตัว 3) My Ether Wallet (www.myetherwallet.com) โดยสามารถดูวิธีการใช้งานต่างๆ ได้ทาง www.facebook.com/JFinCoin หรือ https://medium.com/@jfincoin.jventures
สำหรับการโอนเหรียญออกจาก Coin Asset ไปยัง Wallet ต่างๆ จะมีค่าธรรมเนียมให้แก่ Exchange จำนวน 0.2 JFIN ต่อ 1 ธุรกรรม
ขณะนี้ทาง JVC ได้ดำเนินการเพื่อนำ JFIN Coin ขึ้นเทรดใน Exchange อื่นๆ หากมีความคืบหน้าใดๆ ทาง JVC จะเร่งแจ้งความคืบหน้าโดยทันที อีกทั้งยังได้เร่งพัฒนาระบบ Digital Lending Platform ให้พร้อมดำเนินการตามแผนที่ได้วางได้ตาม Whitepaper