นายวิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานกรรมการบริหาร บล.เคทีบี (ประเทศไทย) (KTBST) ประเมินตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ (21-25 ม.ค.) ยังมีแนวโน้มเชิงบวก โดยคาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,560-1,620 จุด และมีโอกาสกลับขึ้นไปที่ระดับ 1,600 จุด จากปัจจัยในประเทศเรื่องของกำหนดวันเลือกตั้ง ที่ล่าสุดรัฐบาลให้ข้อมูลว่ามีความเป็นไปได้ที่จะมีการประกาศ พ.ร.ฎ.ให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไปในสัปดาห์นี้ และกำหนดวันเลือกตั้งน่าจะประกาศภายในต้นสัปดาห์หน้า หากมีการเลือกตั้งภายในเดือน มี.ค. และเสร็จสิ้นไม่เกิน 9 พ.ค. ตลาดหุ้นจะตอบรับในทางบวก และกลุ่มที่เคลื่อนไหวทางการเมืองจะยุติลง อย่างไรก็ตามทิศทางตลาดหุ้นไทยในช่วงถัดไปจากนั้นจะขึ้นอยู่กับว่าพรรคใดจะชนะการเลือกตั้ง
ด้านปัจจัยต่างประเทศ ยังมีประเด็นสำคัญคือเรื่องการเจรจาการค้าของสหรัฐฯกับจีน ที่ได้มีการเผยเนื้อหาที่สำคัญที่สุดคือจีนจะเพิ่มการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯจากปี 2561 ที่ประมาณ 1.5 แสนล้านเหรียญฯ เป็น 6.0 แสนล้านเหรียญฯ ในปี 2567 โดยสองฝ่ายจะมีการเจรจาครั้งต่อไปในวันที่ 30-31 ม.ค. นี้ KTBSTคาดว่าการเจรจาของทั้งประเทศจะจบลงด้วยดีในไตรมาสแรกของปีนี้ ซึ่งจะเป็นผลบวกต่อตลาดหุ้นทั่วโลกรวมถึงการส่งออกของไทยน่าจะเริ่มดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังนี้และเป็นผลบวกต่อหุ้นกลุ่มส่งออก เช่น อิเล็กทรอนิกส์ เกษตรแปรรูป และชิ้นส่วนยานยนต์
ขณะที่ร่างข้อตกลงการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ที่จะกลับเข้าสภาฯอีกครั้งในวันจันทร์ที่ 21 ม.ค.นี้ โอกาสที่จะยังไม่มีการอนุมติยังมีอยู่ หากเป็นเช่นนั้นก็จะมีผลลบต่อตลาดหุ้นทั่วโลก แต่ไม่มากนักเนื่องจากตลาดรับรู้มาระยะหนึ่งแล้ว แต่ตลาดเงินอาจจะมีผันผวน โดยเฉพาะเงินปอนด์และยูโร ส่วนปัญหางบประมาณสร้างกำแพงแนวชายแดนเม็กซิโกกับสหรัฐฯ ของประธานาธิบดีสหรัฐฯมีการต่อรองเพิ่มเงื่อนไขที่เรียกว่า "การขยายการคุ้มครองผู้อพยพเด็กที่เข้าเมืองผิดกฎหมาย" หรือ "Dreamers in exchange" โดยเรื่องนี้ KTBST มองว่าเป็นประเด็นการเมืองที่จะจบลงด้วยการเจรจา แต่อาจทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯผันผวน หากรุนแรงและจะมีผลมาถึงตลาดหุ้นไทยได้
"การลงทุนในสัปดาห์นี้ คาดดัชนีฯเคลื่อนไหวในกรอบ 1,560-1,620 จุด ตลาดมีแนวโน้มในทางบวกแม้จะมีความอ่อนไหวกับตัวแปรหลายตัว หากดัชนีฯกลับขึ้นไปยืนเหนือ 1,600 จุดได้จะส่งผลบวกด้านจิตวิทยา"นายวิน กล่าว
สัปดาห์นี้ KTBST ให้ความสนใจกับการเข้าซื้อหุ้นขนาดใหญ่ของนักลงทุน ได้แก่ PTT, AOT , CPALL, SCC, PTTEP รวมถึงที่หุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว เช่น HANA , TOP, LH , VNT