ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,588.38 จุด เพิ่มขึ้น 4.61 จุด (+0.29%) มูลค่าการซื้อขาย 45,130.70 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดทั้งวัน โดยดัชนีฯแตะจุดสูงสุดที่ 1,595.16 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,585.24 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 631 หลักทรัพย์ ลดลง 610 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 460 หลักทรัพย์
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้น รับอานิสงส์จากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ที่ผ่อนคลายลง แต่ยังต้องติดตามความชัดเจนต่อไป และตลาดฯก็ได้รับแรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มพลังงานที่ปรับตัวขึ้นมากในวันนี้ อันเป็นผลจากราคาน้ำมันได้ปรับตัวขึ้น
อย่างไรก็ดี นักลงทุนยังไม่ได้ไว้วางใจต่อภาพโดยรวมมาก โดยยังระมัดระวังการลงทุนอยู่ เมื่อดัชนีฯเข้าใกล้ระดับ 1,600 จุด บวก/ลบ ก็จะมีแรงขายสลับออกมา
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียในช่วงบ่ายนี้ได้ลดช่วงบวกลงบ้าง หลังจากที่ตลาดในยุโรปที่เทรดบ่ายนี้ได้ติดลบเป็นส่วนใหญ่ และยังเฝ้ารอดูเรื่องร่างข้อตกลงการถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ด้วย ซึ่งวันนี้เป็นวันที่จะต้องยื่นแผนใหม่ต่อรัฐสภาอังกฤษ
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (22 ม.ค.) น.ส.ธีรดา กล่วว่า ตลาดฯคงจะผันผวนเมื่อดัชนีฯเข้าใกล้ระดับ 1,600 จุด ซึ่งก็ต้องรอดูว่าจะมีปัจจัยบวกใหม่เข้ามาช่วยหนุนตลาดฯหรือไม่
พร้อมให้แนวรับ 1,580-1,570 จุด ส่วนแนวต้าน 1,600 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
BDMS มูลค่าการซื้อขาย 6,804.83 ล้านบาท ปิดที่ 21.60 บาท ลดลง 2.00 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 3,122.22 ล้านบาท ปิดที่ 187.50 บาท เพิ่มขึ้น 4.50 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,086.52 ล้านบาท ปิดที่ 75.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,993.45 ล้านบาท ปิดที่ 48.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,687.44 ล้านบาท ปิดที่ 128.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง