(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว:นิกเกอิปิดบวก77.84จุดจากความหวังแผนกระตุ้นศก.สหรัฐ

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday January 18, 2008 16:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดดีดตัวขึ้นในวันนี้ (18 ม.ค.) โดยเฉพาะในช่วงท้ายของการซื้อขาย เนื่องจากตลาดมีความหวังมากขึ้นว่าแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐ จะช่วยฟื้นเศรษฐกิจสหรัฐให้หลุดพ้นจากการเดินเข้าสู่ภาวะถดถอยได้
ในการซื้อขายช่วงแรก ดัชนีนิกเกอิตกลงแตะระดับต่ำในรอบ 26 เดือน ตามตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ดิ่งลงเมื่อคืนนี้ หลังจากที่มีการเปิดเผยข้อมูลตลาดที่อยู่อาศัยและการผลิตที่อ่อนตัว และการขาดทุนมหาศาลของเมอร์ริล ลินช์ยิ่งทำให้เกิดความวิตกกังวลกับนักลงทุน
ประธานาธิบดีบุชได้เสนอให้มีการใช้มาตรการทางเศรษฐกิจมูลค่า 1.50 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งประกอบด้วยมาตรการลดภาษี การกระตุ้นให้มีการใช้จ่ายมากขึ้น ซึ่งถือเป็นปัจจัยกระตุ้นนักลงทุนให้เข้ามาขายในช่วงบ่ายจากการคาดหวังว่าตลาดหุ้นนิวยอร์กจะดีดตัวขึ้นคืนนี้
สำนักข่าวธอมสันไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดบวก 77.84 จุด หรือ 0.6% ที่ 13,861.29 จุด โดยดัชนีปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 2 หลังจากที่ร่วงลงแตะ 13,365.32 จุดเมื่อเช้านี้
ปริมาณการซื้อขายร่วงลงแตะ 2.73 พันล้านหุ้น จากระดับวานนี้ที่ 2.80 พันล้านหุ้น
คัตซูฮิโกะ ฮิโรชิเกะ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายเทรดดิ้งของบล.มูระซัน กล่าวว่า แรงซื้อเก็งกำไรมีมากขึ้นเมื่อมีการเทขายเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ แต่นักลงทุนหลีกเลี่ยงการไล่ซื้อหุ้นที่มีราคาสูงขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากยังวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มตลาดหุ้นสหรัฐ โดยเฉพาะเมื่อตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงอีกเมื่อคืนนี้
ฮิโรชิเกะกล่าวว่า ข้อมูลการผลิตและตัวเลขขอจดทะเบียนบ้านใหม่ของสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ทำให้นักลงทุนประหลาดใจ เนื่องจากนักลงทุนไม่คิดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะอยู่ในสภาวะที่ย่ำแย่ขนาดนี้ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องปกติที่นักลงทุนจะระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะมีการประกาศดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่จัดทำโดยมหาวิทยาลัยมิชิแกนและปัจจัยชี้นำอื่นๆ
นักลงทุนจะยังคงคาดการณ์เกี่ยวกับระดับของอัตราดอกเบี้ยที่เฟดจะลด โดยมีการคาดการณ์กันมากขึ้นว่า เฟดจะลดดอกเบี้ยลง 0.50% จากระดับปัจจุบันที่ 4.25%
หุ้นอสังหาฯปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยหุ้นมิตซุย ฟูโดซาน ปิดพุ่ง 5.9% และหุ้นมิตซูบิชิ เอสเตท พุ่งขึ้น 3.9%
หุ้นกลุ่มบริษัทเหล็กกล้าและชิปปิ้งปรับตัวสูงขึ้นเช่นกันจากการคาดการณ์เรื่องความต้องการเหล็กกล้าและการขนส่งวัตถุดิบภาคอุตสาหกรรมจากจีนและประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ โดยหุ้นนิปปอน สตีล พุ่งขึ้น 5.2% และหุ้นเจเอฟอี โฮลดิ้งส์ ดีดตัว 3.7%

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ