นายรัฐชัย ภิชยภูมิ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการเงิน บมจ.อีเอ็มซี (EMC) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 62 เติบโตจากปีก่อน 25% จากปัจจุบันธุรกิจรับเหมาก่อสร้างมีงานในมือ (Backlog) จำนวน 1 โครงการ มูลค่าราว 3 พันล้านบาท ซึ่งมีการรับรู้เป็นรายได้ไปแล้ว 2 พันล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 1 พันล้านบาทจะรับรู้ภายในปีนี้ทั้งหมด ประกอบกับบริษัทมียอดขายรอโอน ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จำนวน 6 โครงการมูลค่ารวมราว 3 พันล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้เป็นรายได้ในปีนี้ด้วย
ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าหมายมี Backlog ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างปี 62 ที่ระดับ 5 พันล้านบาท ในปีต่อไปตั้งเป้าเติบโต 25% และภายใน 3 ปีแตะที่ระดับ 1 หมื่นล้านบาท เนื่องจากเห็นว่าจะมีงานประมูลโครงการภาครัฐออกมามาก จากการกระตุ้นเศรษฐกิจและเม็ดเงินลงทุนจากภาครัฐในการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ ซึ่งบริษัทจะพิจารณาลักษณะงานในการเข้ารับงานต่อไป ส่วนภาคเอกชนคาดว่าจะมีการก่อสร้างโรงงานใหม่มากขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) จากผู้ประกอบการจีนและญี่ปุ่นที่สนใจเข้ามาขยายกิจการในไทย
ขณะเดียวกันบริษัทเตรียมเซ็นสัญญาโครงการรับเหมาก่อสร้างเพิ่มเติมในปีนี้อีก 2 โครงการ มูลค่ารวมราว 3 พันล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการของทั้งภาครัฐและเอกชน คาดว่าจะสามารถมีความชัดเจนไม่เกินไตรมาส 1/62 อย่างไรก็ดี บริษัทตั้งเป้าอัตรากำไรขั้นต้นในการเข้ารับงานรับเหมาก่อสร้างเฉลี่ยที่ 10-15% ต่องาน บริษัทคาดว่าปี 62 สัดส่วนรายได้จากธุรกิจรับเหมาก่อสร้างจะปรับเพิ่มขึ้นเป็น 70% จากเดิม 60% ส่วนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อยู่ที่ 30% จากการเน้นการโอนโครงการมากขึ้น
นายรัฐชัย กล่าวอีกว่า สำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์บริษัทตั้งเป้าหมายการเปิดโครงการคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ 2-3 โครงการต่อปี มูลค่ารวมราว 2 พันล้านบาท โดยจะเน้นทำเลติดแนวรถไฟฟ้าสายใหม่ ๆ ซึ่งได้เจรจาเบื้องต้นและศึกษาราคาที่ดินแล้ว ประกอบกับปัจจุบันบริษัทมีที่ดินพร้อมพัฒนาราว 10 ไร่ ซึ่งการลงทุนใหม่ ๆ บริษัทได้รับการสนับสนุนเงินทุนจากธนาคารพาณิชย์กว่า 50% ของราคาที่ดิน อย่างไรก็ดี บริษัทตั้งเป้าหมายอัตรากำไรขั้นต้นสำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไว้ที่ระดับ 30-35%
ปัจจุบันบริษัทมีโครงการในมือทั้งหมดจำนวน 6 โครงการ มูลค่ารวมราว 3 พันล้านบาท ได้แก่ Urbitia Thonglor, Landmark Mahachai, Siam Iyara Resort, Seaside Bangsaen, Palmio และ Station One โดยคาดว่าทยอยรับรู้เป็นรายได้ในปี 62
นอกจากนี้ บริษัทตั้งเป้าล้างขาดทุนสะสมที่มีอยู่ราว 2.6 พันล้านบาท ภายในระยะเวลา 4 ปี (ปี 62-65) ด้วยเงินจากผลประกอบการ ซึ่งมองว่าผลประกอบการของบริษัทได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว แนวโน้มปี 61 คาดว่าจะพลิกเป็นกำไรได้ โดยจะมีการประกาศงบการเงินภายในเดือนก.พ.62 อย่างไรก็ดีบริษัทอยู่ระหว่างศึกษาแนวทางอื่น ๆ ในการล้างขาดทุนสะสม เช่น การลดทุนจดทะเบียน แต่ยังต้องประเมินและพิจารณาถึงผลดีและผลเสียต่อไป