โบรกเกอร์ เห็นพ้อง"ซื้อ"หุ้น บมจ.ศุภาลัย (SPALI) มองผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/61 คาดกำไรสุทธิ 2.08-2.14 พันล้านบาท ทำ New High โดยเติบโตขึ้น 23-24% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 69-73% จากไตรมาสก่อน หนุนจากยอดโอนที่คาดเร่งขึ้น จากโครงการแนวราบที่ไปได้ดี และการเริ่มโอน 3 คอนโดมิเนียมใหม่
SPALI เป็นหนึ่งใน Top Pick โดยสามารถกระจายความเสี่ยงได้ดีจากจุดแข็งที่มีฐานลูกค้าในทุก Segment และทุก Sector ยอดขายคาดว่ายังสามารถเติบโตได้ โดยปีนี้กำไรจะกลับมาเติบโตเด่นที่ราว 5.9-6.67 พันล้านบาท จากมูลค่ายอดขายรอโอน (Backlog) ถึง 4.2 หมื่นล้านบาททยอยรับรู้รายได้ถึงปี 65 และยังรับรู้โครงการสุขุมวิท 39 ที่ให้มาร์จิ้นที่ดีด้วย อีกทั้งยังเป็นหุ้นที่ให้ปันผลสูงปีละ 5-6%
ทั้งนี้ ช่วงที่เป็นไฮไลท์คือไตรมาส 2/62 คาดว่าจะมีการเปิดโครงการขนาดใหญ่ คือ คอนโดมิเนียม Icon สาทร 800 ยูนิต มูลค่ามากกว่า 1 หมื่นล้านบาท หากได้รับตอบรับดีจะเป็นแรงหนุนในปีนี้
สำหรับผลกระทบของ LTV มีจำกัด รวมทั้งสถานะการเงินที่แกร่งคาดจะเป็นจุดเด่นในปีนี้
พักเที่ยงราคาหุ้น SPALI อยู่ที่ 19.60 บาท ลดลง 0.10 บาท หรือ 0.51% ขณะที่ดัชนีหุ้นไทย เพิ่มขึ้น 0.61%
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น)
ฟินันเซีย ไซรัส ซื้อ 22.50
ทิสโก้ ซื้อ 24.60
เคที ซีมิโก้ ซื้อ 23.50
ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ซื้อ 22.90
เคจีไอ (ประเทศไทย) ซื้อ 22.50
เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ซื้อ 22.10
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ ให้เหตุผลแนะนำ"ซื้อ"หุ้น SPALI เนื่องจากมองว่าปีนี้กำไรจะกลับมาเติบโตได้ราว 23% มาอยู่ที่ 6.67 พันล้านบาท โดยมี Backlog สูงถึง 4.2 หมื่นล้านบาท ที่มารองรับรายได้ และยังมีการรับรู้โครงการสุขุมวิท 39 ที่ให้มาร์จิ้นที่ดีด้วย นอกจากนี้ SPALI ก็ยังให้ปันผลที่สูงปีละประมาณ 5-6%
สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/61 ของ SPALI คาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 2.08 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 69% จากไตรมาสก่อน
ด้าน บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ฯเลือก SPALI เป็นหนึ่งใน Top Pick จากการเติบโตของกำไรปกติปี 62 ที่เด่นกว่ากลุ่ม ขณะที่ประเมินผลกระทบจากมาตรการควบคุมสินเชื่อที่อยู่อาศัย ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่กำหนดเงินดาวน์ขั้นต่ำหรืออัตราส่วนสินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน (LTV) นั้น ในกรณีเลวร้ายสมมติให้ยอดโอนคอนโดมิเนียมลดลงจากเดิม 10% อ้างอิง Backlog รองรับ 80% กำไรปกติปีนี้ยังโตได้ 7% สูงกว่ากลุ่มที่เติบโต 4%
นอกจากนี้ SPALI ยังมีพอร์ตกระจายทั้งแนวราบและคอนโดมิเนียม รวมถึงมี Backlog แข็งแกร่งที่ 4.2 หมื่นล้านบาท ทยอยรับรู้ถึงปี 65 ขณะที่คาดให้ผลตอบแทนปันผล 5-6% ต่อปี โดยคาดว่า SPALI จะจ่ายปันผลงวดครึ่งหลังปี 61 ที่ 0.53 บาท
สำหรับปีนี้ SPALI ตั้งเป้าระมัดระวังขึ้น สะท้อนยอดขายที่คาดอัตราการเติบโตลดลงมาที่ 5% จากปีก่อน เป็น 3.3 หมื่นล้านบาท เทียบกับการเปิดโครงการใหม่ 4 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 54% จากปีที่แล้ว ซึ่งถือว่ายังสอดคล้องกับประมาณการกำไรปกติปี 62 ที่ 5.9 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% จากปีก่อน บน Backlog secured ประมาณการรายได้แล้ว 49%
ทั้งนี้ คาดกำไรปกติไตรมาส 4/61 แตะระดับ 2.1 พันล้านบาท ทำ New High เติบโตแกร่ง 70% จากไตรมาสก่อน และ 24% จากงวดปีก่อน หนุนจากยอดโอนที่คาดเร่งขึ้นเป็น 9.1 พันล้านบาท จากแนวราบที่ไปได้ดี และการเริ่มโอน 3 คอนโดมิเนียมใหม่
ส่วน บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) แนะ"ซื้อ"หุ้น SPALI ประเมินจะเป็นอีกหนึ่งบริษัทที่สามารถกระจายความเสี่ยงได้ดีจากจุดแข็งที่มีฐานลูกค้าในทุก Segment และทุก Sector และยอดขายคาดว่ายังสามารถเติบโตได้ โดยคาดว่าช่วงที่เป็นไฮไลท์คือไตรมาส 2/62 ที่คาดว่าจะมีการเปิดโครงการขนาดใหญ่คือคอนโดมิเนียม Icon สาทร จำนวนประมาณ 800 ยูนิต และมูลค่ามากกว่า 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งหากได้รับตอบรับดีจะเป็นแรงหนุนในปีนี้ ขณะที่ผลกระทบของ LTV มีจำกัด รวมทั้งสถานะการเงินที่แกร่งคาดจะเป็นจุดเด่นในปีนี้
ทั้งนี้ คงประมาณการรายได้ปี 61 ของ SPALI ที่ 2.68 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.3% จากปีก่อนหน้า และยังคงเป็น Record High และคาดกำไรสุทธิเท่ากับ 5.47 พันล้านบาท ลดลง 5.8% จากปีก่อน นอกจากนี้คาดกำไรสุทธิของไตรมาส 4/61 จะเด่นสุดของปีที่ 2.14 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.8% จากงวดปีก่อน และ 73% จากไตรมาสก่อน ณ สิ้นปี 61 SPALI มี Backlog ในมือที่ 4.25 หมื่นล้านบาท โดยมีกำหนดบันทึกรายได้ในปีนี้ที่ 1.34 หมื่นล้านบาท ส่วนที่เหลือทยอยบันทึกถึงปี 65
สำหรับปี 62 ประมาณรายได้ 2.83 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.3% จากปีก่อน และกำไรสุทธิ อยู่ที่ 6.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.2% จากปีก่อน