(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งไซด์เวย์ อิงแดนบวก เล็ง Fund Flow เข้าต่อเนื่องหลังเงินบาทแข็งค่า-เลือกตั้งชัดเจน

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday January 30, 2019 09:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งไซด์เวย์ อิงแดนบวก จากปัจจัยหนุนเงินบาทแข็งค่า และการเลือกตั้งที่ชัดเจน น่าจะช่วยหนุนให้ Fund Flow ยังไหลเข้าอย่างต่อเนื่อง

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่อยู่ในแดนลบ ในช่วงรอดูผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่มีขึ้นในวันที่ 29-30 ม.ค. และการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ที่จะเริ่มขึ้นในวันนี้ ส่วนเรื่องรัฐสภาอังกฤษได้ทำการลงมติต่อร่างแก้ไขข้อตกลงว่าด้วยการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) โดยการลงมติของสมาชิกรัฐสภาเมื่อวานนี้ ไม่ใช่เป็นการลงมติต่อร่างข้อตกลง Brexit ฉบับใหม่ แต่เป็นการให้แก้ไขร่างข้อตกลง Brexit ซึ่งทางผู้นำสหภาพยุโรปเห็นว่าข้อตกลงดีสุดแล้ว หลังจากนี้อังกฤษก็จะนำเนื้อหาในร่างแก้ไขดังกล่าวมาปรับปรุงเป็นร่างข้อตกลง Brexit ฉบับใหม่ไปเจรจาครั้งใหม่กับผู้นำสหภาพยุโรป ซึ่งมองว่าอาจทำให้การเจรจาไม่ราบรื่น

ทั้งนี้ ให้จับตาการประชุมเฟดในวันนี้ ซึ่งตลาดฯคาดคงอัตราดอกเบี้ย แต่ให้ดูในเรื่องของงบดุล และติดตามการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน รวมถึงติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของ SCC, PTTEP ในวันนี้

พร้อมให้แนวรับ 1,615-1,620 จุด ส่วนแนวต้าน 1,630-1,635 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (29 ม.ค.62) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,579.96 จุด เพิ่มขึ้น 51.74 จุด (+0.21%) ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,640.00 จุด ลดลง 3.85 จุด (-0.15%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,028.29 จุด ลดลง 57.39 จุด (-0.81%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 36.98 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 9.50 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 39.73 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 15.62 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 0.13 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 0.74 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 0.72 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (29 ม.ค.62) 1,624.05 จุด ลดลง 0.98 จุด (-0.06%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,284.51 ล้านบาท เมื่อวันที่ 29 ม.ค.62
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มี.ค. ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (29 ม.ค.62) ปิดที่ 53.31 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.32 ดอลลาร์ หรือ 2.5%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (29 ม.ค.62) ที่ 1.57 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 31.46 แข็งค่าต่อเนื่อง รับเม็ดเงินไหลเข้าตลาดหุ้น มองกรอบวันนี้ 31.45-31.55
  • กกพ.เล็งออกประกาศรับซื้อไฟฟ้าโซลาร์ภาคประชาชนไตรมาส 2 ปีนี้ นำร่อง 100 เมกะวัตต์ อัตราไม่เกิน 1.6-1.8 บาทต่อหน่วย พร้อมออกประกาศซื้อไฟฟ้าจากขยะชุมชนใน 1-2 เดือนนี้ ในรูปแบบเอสพีพี มท.-พลังงานเตรียมหารือ ที่ตั้งโรงไฟฟ้า เปิดทางตั้งในที่รัฐ-เอกชน กำหนด "เอฟไอที" 3.66 บาท/หน่วย
  • สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เผยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (เอ็มพีไอ) เดือนธันวาคม 2561 อยู่ที่ 112.54 ขยายตัว 0.75% เทียบช่วงเดียวกันของปี 2560 โดยเฉพาะอุตสาหกรรม ยานยนต์ที่การผลิตขยายตัวต่อเนื่อง ส่งผลให้เอ็มพีไอไตรมาส 4/2561 อยู่ที่ 114.55 ขยายตัว 2.43% และเอ็มพีไอปี 2561 อยู่ที่ 115.08 ขยายตัว 2.80% เพิ่มขึ้นจากปี 2560 อยู่ที่ 111.94 ขยายตัว 2.50% และปี 2561 มีอัตราใช้กำลังเฉลี่ย อยู่ที่ 68.4% เพิ่มจากปี 2560 อยู่ที่ 67.12% ผลจากหลายอุตสาหกรรมขยายตัว เช่น รถยนต์ น้ำตาลทราย ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และแผ่นวงจร โซดาและน้ำดื่มบรรจุขวด กระเป๋าเดินทางและกระเป๋าถือ ซึ่งเร่งผลิตและส่งมอบช่วงเทศกาลปีใหม่และคำสั่งซื้อของตลาดในประเทศเพิ่มขึ้น 685.59%
  • ตลาดหลักทรัพย์ คาดกำไร บจ. ปี 61 โต 13.3% ทะลุ 1 ล้านล้านบาท ชี้ผลจากการขยายลงทุนในต่างประเทศ ยกหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีโตเด่น 40% ด้าน บล.ไทยพาณิชย์ มองผลดำเนินงานกลุ่มพลังงาน-แบงก์ปีนี้ไม่เด่น ส่อหั่นประมาณการกำไรทั้งระบบลง 4-5% พร้อมลดเป้าดัชนี เหลือ 1,800 จุด จากเดิม 2,000 จุด
  • ผู้เชี่ยวชาญโทรคมนาคมแนะรัฐบาลใหม่ดัน 3 เรื่อง ด้าน 'รมว.ดีอี' แย้ง กสทช.ใช้คลื่น 700 MHz รองรับ 5G ไม่สอดคล้อง 'ฐากร' ยันประมูลคลื่น พ.ค.หวั่นกระทบบริการ 5G ช้ากว่าประเทศอื่น

*หุ้นเด่นวันนี้

  • CPALL (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 90 บาท คาดกำไรจะโตต่อเนื่องใน Q4/61 เพราะเป็น High Season และตลาดตอบรับดีกับแสตมป์ Line Friends โดยคาดว่า SSSG จะโตได้มากกว่า 2% พร้อมคาดกำไรปี 2562 โต 14.6% Y-Y อยู่ที่ 2.3 หมื่นลบ. โดย CPALL เป็นหุ้นที่ NVDR ซื้อมากสุด YTD โดยซื้อไปแล้ว 6.5 พันล้านบาท ทุนเฉลี่ย 75.42 บาท คิดเป็น 27% ของยอดที่ NVDR ซื้อหุ้นทั้งตลาดที่ 2.4 หมื่นล้านบาท YTD
  • BBL(กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 245 บาท ยังเลือก BBL เป็น Top pick ของกลุ่มธนาคาร จากคุณภาพสินทรัพย์ดีสุด แนวโน้มกำไรโตโดดเด่น และมีแรงกดดันจากการตั้งสำรองค่าใช้จ่ายพนักงานจากกฎหมายแรงงานฉบับใหม่น้อยสุด เนื่องจากบริษัททยอยบันทึกค่าใช้จ่ายมาแล้วในช่วง Q4/61 ที่ผ่านมา
  • AOT (เมย์แบงก์ กิมเอ็ง) "ซื้อ"เป้า 75 บาท สัญญาณนักท่องเที่ยวจีนเดือน ธ.ค. +2.8%YoY ฟื้นตัวครั้งแรกในรอบ 6 เดือน ตามคาด คาดเพิ่มแรงหนุนเชิงบวก ผสานกับการเข้าสู่ช่วงตรุษจีน ซึ่งน่าจะช่วยให้จำนวนนักท่องเที่ยวเร่งตัวมากยิ่งขึ้น อีกทั้งคาดความคืบหน้าในการเปิดประมูล Duty Fee ใหม่ในช่วงเดือน ก.พ. จะเพิ่มกำไรให้ AOT มากยิ่งขึ้นในช่วงถัดไป ด้านเทคนิคแกว่งขึ้น ต้าน 70/72 รับ 68 บาท

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ