นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริษัทและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บมจ.ดับบลิวเอชเอคอร์ปอเรชั่น(WHA) เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงาน 5 ปี (61-65) ว่า บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้จะเติบโตเฉลี่ย 15% ต่อปี และมี EBITDA MARGIN โตมากกว่า 50% หรือมากกว่า 30,000 ล้านบาท โดยวางงบลงทุนรวมไว้ที่ 45,000 ล้านบาท ซึ่งจะแบ่งใช้ลงทุนสำหรับปีนี้ไว้ที่ 9,000-10,000 ล้านบาท เพื่อรองรับการขยายธุรกิจในทุกกลุ่มธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจโลจิสติกส์, ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม, ธุรกิจบริการสาธารณูปโภคและพลังงาน และธุรกิจดิจิทัลแพลตฟอร์ม
สำหรับในปี 62 บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้จะเติบโต 70% จากปีก่อนที่ทำได้ 11,000 ล้านบาท และ EBITDA MARGIN โตกว่า 30% เป็นไปตามการเติบโตของทั้ง 4 กลุ่มธุรกิจ โดยกลุ่มธุรกิจโลจิสติกส์ปีนี้ มีแผนขยายพื้นที่อาคารคลังสินค้าระดับพรีเมี่ยมอีก 2 แสนตารางเมตร เป็น 2.5 ล้านตารางเมตร จากปีก่อนอยู่ที่ 2.3 ล้านตารางเมตร โดยจะมุ่งเน้นไปที่ธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ การบินและอากาศยาน ควบคู่ไปกับการสร้างมูลค่าที่สูงยิ่งขึ้นโดยอาศัยการนำเทคโนโลยีอัจฉริยะและนวัตกรรมเข้ามาช่วย ขณะที่บริษัทฯ ยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างเตรียมดำเนินการก่อสร้าง ได้แก่ โครงการดับบลิวเอชเอ อี-คอมเมิร์ซพาร์ค จ.ฉะเชิงเทรา, โครงการดับบลิวเอชเอ- เจดี อี-คอมเมิร์ชเซ็นเตอร์ และโครงการดับบลิวเอชเอ เมกะ โลจิสติกส์ เซ็นเตอร์ แหลมฉบัง 2
นอกจากนี้ กลุ่มธุรกิจโลจิสติกส์ยังมองหาโอกาสใหม่ๆ เพื่อขยายการลงทุนไปยังลุ่มประเทศ CLMV โดยเน้นไปที่ประเทศอินโดนีเซียและเวียดนามเป็นหลัก อีกทั้งยังมีแผนขายสินทรัพย์เข้ากอง REIT อีก 5,750 ล้านบาท ผ่านกอง REIT ของบริษัทมูลค่า 34,300 ล้านบาท
ด้านกลุ่มธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายที่ดินไว้ที่ 1,600 ไร่ โดยแบ่งเป็นยอดขายที่ดินในประเทศเวียดนามที่ 200 ไร่ ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมใหม่ (S-curve) ทั้ง 12 กลุ่ม และยังตั้งเป้ายอดโอนที่ดินไว้ที่ 1,300 ไร่ ขณะเดียวกันบริษัทฯ ก็มีแผนที่จะเปิดตัวนิคมอุตสาหารรองเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งแห่งในประเทศไทย ซึ่งจะทำให้มีนิคมฯ ที่ดำเนินการแล้วรวม 11 แห่งโดย 10 แห่งตั้งอยู่ในประเทศไทย (ในจำนวนนี้นิคมฯ 9 แห่งได้รับการรับรองให้เป็นพื้นที่เขตส่งเสริมอุตสาหกรรมเป้าหมายในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) และอีกหนึ่งแห่งในประเทศเวียดนาม ปัจจุบัน ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล ดีเวลลอปเมนท์ มีที่ดินรวมทั้งสิ้น 68,500 ไร่ ซึ่งในปีนี้บริษัทฯ เตรียมที่จะพัฒนาที่ดินจำนวน 2,650 ไร่ ส่งผลทำให้จะมีที่ดินที่อยู่ภายใต้การดำเนินงานและที่ดินส่วนที่กำลังพัฒนาเพิ่มขึ้นเป็น 43,150 ไร่
กลุ่มธุรกิจบริการสาธารณูปโภคและพลังงาน ปีนี้ตั้งเป้าการผลิตและจำหน่ายน้ำที่ 120 ล้านลูกบาศก์เมตร จากปีก่อนทำได้ 105 ล้านลูกบาศก์เมตร จากการขยายบริการด้านการผลิตน้ำออกไปยังนิคมอุตสาหกรรมอื่นๆ ทั้งในไทยและเวียดนาม รวมถึงบริการเสริมต่างๆ เช่น การนำน้ำกลับมาใช้ใหม่ การผลิตน้ำด้วยระบบรีเวอร์สออสโมสิส และน้ำอุตสาหกรรมปราศจากแร่ธาตุ นอกจากนี้ยังมีการคิดค้นนวัตกรรมและการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น อินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงส์ (IoT) มาใช้สำหรับสมาร์ทวอเตอร์โซลูชั่น เฟสแรกที่นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอตะวันออก (มาบตาพุต) ด้วย ขณะเดียวกันก็มองโอกาสลงทุนในธุรกิจน้ำประปา ในประเทศเวียดนาม ในลักษณะการเข้าไปถือหุ้นในธุรกิจน้ำประปากับทางรัฐบาลเวียดนาม หลังจากที่รัฐบาลเวียดนามได้มีการเปิดให้ภาคเอกชนเข้าไปถือหุ้นร่วมได้ โดยรัฐบาลเวียดนามจะถือหุ้นในสัดส่วนที่มากกว่า 50% บริษัทฯ จึงคาดว่าจะดำเนินการเข้าซื้อหุ้นภายในครึ่งปีแรกนี้
กลุ่มธุรกิจดิจิทัลแพลตฟอร์ม ปัจจุบัน บริษัท ดับบลิวเอชเออินโฟนิท จำกัด มีดาต้าเซนเตอร์ ทั้งหมด 4 แห่ง ซึ่งในที่นี้รวมถึงการเข้าร่วมทุนกับทางซุปเปอร์แนปที่เป็นดาต้าเซนเตอร์ระดับเทียร์ 4 แห่งเดียวในเอเชียแปซิฟิก (ไม่รวมออสเตรเลีย) ด้วย นอกจากนี้ยังให้บริการเทคโนโลยีไฟเบอร์ออพติก (FTTx) ใน 5 นิคมอุตสาหกรรมของกลุ่มคับบลิวเอชเอ โดยดับบลิวเอชเออินโฟนิท จึงมีเป้าหมายที่จะขยายฐานลูกค้าและการบริการให้ครอบคลุมทุกนิคมอุตสาหกรรม โดยตั้งให้บริการไฟเบอร์ออพติก (FTTx) ใน 10 นิคมอุตสาหกรรมภายในสิ้นปีนี้ รวมไปถึงการเพิ่มการใช้งานเทคโนโลยีอัจฉริยะต่างๆ ในศูนย์กระจายสินค้านิคมอุตสาหกรรมและธุรกิจต่างๆ ในเครืออีกด้วย