นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท. (PTT) เปิดเผยว่า ปตท.เตรียมนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการในเดือน ก.พ.นี้ เพื่อพิจารณาว่าจะเข้าร่วมประมูลโครงการสาธารณูปโภคขนาดใหญ่จำนวน 3 โครงการของภาครัฐหรือไม่ หลังเป็นโครงการที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกับพื้นที่การลงทุนของกลุ่มปตท.
สำหรับทั้ง 3 โครงการ ประกอบด้วย โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ,โครงการท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะ 3 และโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก โดยในส่วนโครงการท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะ 3 จะสามารถรองรับการลงทุนคลังก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ของกลุ่มปตท.ได้ ส่วนโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา ก็จะทำให้ปตท.มีโอกาสจำหน่ายน้ำมันเครื่องบินได้เช่นกัน
"เราต้องพิจารณาถึงความคุ้มค่าในการลงทุน ซึ่งทั้งหมดจะต้องให้ได้ข้อสรุปเรื่องประมูลภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้"นายชาญศิลป์ กล่าว
อนึ่ง กลุ่มปตท.ได้เข้าร่วมซื้อซองประกวดราคาของทั้ง 3 โครงการแล้ว โดยโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 มีมูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาท ได้เปิดให้ผู้ยื่นเสนอซองประกวดราคาแล้ว แต่ปรากฎว่ามีผู้ยื่นเพียงรายเดียว ทำให้มีการปรับเงื่อนไขประกวดราคาใหม่ และปัจจุบันอยู่ระหว่างให้เข้ามารับซองเงื่อนไขประกวดราคาใหม่ระหว่างวันที่ 28 ม.ค.-8 ก.พ. และให้ยื่นข้อเสนอในวันที่ 29 มี.ค. ,โครงการท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะ 3 เปิดให้ยื่นข้อเสนอด้านเทคนิคและราคา ในวันที่ 6 ก.พ. และโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ซึ่งจะต้องยื่นข้อเสนอในวันที่ 28 ก.พ.
นายชาญศิลป์ กล่าวอีกว่า ส่วนการจะเข้าร่วมลงทุนในโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินนั้น ขณะนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจ โดยอยู่ระหว่างรอผลสรุปจากทางการว่าใครจะเป็นผู้ชนะประมูลในโครงการดังกล่าว รวมถึงรอผลศึกษาความเป็นไปได้ของการเข้าไปลงทุนด้วย เนื่องจากว่าเป็นโครงการที่ปตท.ไม่มีความถนัด
ส่วนคืบหน้าโครงการลงทุนในพื้นที่เขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EECi) พื้นที่วังจันทร์วัลเลย์ จ.ระยองนั้น ปัจจุบันอยู่ระหว่างเปิดประมูลหาผู้รับเหมาก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานของโครงการ โดยคาดว่าจะได้ผู้รับเหมาภายในไตรมาส 1/62 ซึ่งก็จะพร้อมดำเนินการก่อสร้างทันที