นายวิเชียร เมฆตระการ กรรมการผู้อำนวยการ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) หรือ เอไอเอส กล่าวว่า การเป็นพันธมิตรธุรกิจกันระหว่าง บมจ.ทีโอทีและเอไอเอส ในครั้งนี้เป็นความร่วมมือในการนำความแข็งแกร่งของทั้งสองโครงข่ายมาพัฒนาให้เกิดประโยชน์ร่วมกัน ทั้งในส่วนของการบริหารและประสิทธิภาพของการดำเนินธุรกิจ
ในวันนี้ ทีโอทีได้ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจในการส่งเสริมและพัฒนากิจการโทรคมนาคมไทยกับเอไอเอสเป็นรายแรก และมีเจตจำนงที่จะร่วมมือในลักษณะเช่นนี้กับภาครัฐและภาคเอกชนทุกราย เชื่อมั่นว่าจะสามารถร่วมมือกับผู้ให้บริการรายอื่นต่อไป เนื่องจากเป็นการประหยัดการลงทุนด้านโครงข่ายของทั้ง 2 ฝ่ายมิให้เกิดความซ้ำซ้อน
ทีโอทีและ เอไอเอสจะตั้งคณะทำงานร่วมกันต่อไป เพื่อพิจารณารายละเอียดทางธุรกิจและการพัฒนาโครงข่ายที่จะให้เกิดกับบริการต่างๆ ให้กับผู้ใช้บริการของทั้งโทรศัพท์พื้นฐานและโทรศัพท์เคลื่อนที่
"หลังการร่วมลงนาม ทางทีโอทีและเอไอเอส จะมีการตั้งคณะทำงานร่วมกันด้านเทคนิคัล และภายใน 3 เดือนคาดว่าจะเริ่มให้บริการด้าน voice กับลูกค้าเอไอเอสและทีโอที โดยสามารถใช้เบอร์บ้านและมือถือที่มีเชื่อมต่อเป็นเบอร์เดียวกันรับและส่งข้อความได้" นายวิเชียร กล่าว
ทีโอทีเป็นผู้นำด้านระบบโทรคมนาคมทางสาย มีโครงข่ายโทรศัพท์พื้นฐานที่ใหญ่และกว้างขวางที่สุดในประเทศไทย และมีโครงสร้างพื้นฐานในการสนับสนุนด้านเทคโนโลยีชั้นสูง ส่วนเอไอเอส มีระบบโครงข่ายโทรคมนาคมไร้สายที่มีขนาดใหญ่ มีความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยี และมีความหลากหลายของการให้บริการ
"เมื่อนำจุดแข็งของทั้ง 2 ฝ่ายมาร่วมมือกันก็จะทำให้ทั้ง 2 โครงข่ายสามารถเร่งพัฒนาให้รองรับการให้บริหารตามความต้องการของประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีในอนาคตได้เป็นอย่างดี ตลอดจนจะทำให้โครงข่ายทั้ง 2 สามารถทำงานร่วมกันได้" นายวิเชียร กล่าว
นอกจากนี้ จะมีการใช้แจ้งบิลการเรียกเก็บเงินร่วมกัน ซึ่งจะช่วยให้ทั้ง 2 องค์กรประหยัดค่าใช้จ่าย รวมทั้งจะมีความร่วมมือบริการบรอดแบนด์ และ 3G ในอนาคต
"ถึงแม้จะมีการเปลี่ยนรัฐบาล แต่ความร่วมมือนี้ก็จะไม่มีการเปลี่ยนแปลง ความร่วมมือดังกล่าวเราคิดไว้ตั้งแต่ปีที่แล้วที่มีการเริ่มต้นเรื่องเทเลคอมพูล แต่ก็ยอมรับว่าความร่วมมือกันนี้เป็นผลจากการที่ กสท กับ DTAC กระตุ้นให้เรามีความร่วมมือได้เร็วขึ้น" นายวิเชียร กล่าว
นายวิเชียร์ กล่าวว่า การพัฒนาคลื่นความถี่ไปสู่ระบบ 3G ร่วมกับทีโอทีนั้นจะดำเนินการในระยะต่อไปโดยพิจารณาช่วงจังหวะเวลาที่เหมาะสม ขณะที่ความร่วมมือกันครั้งนี้เป็นการรวมกลุ่มเพื่อสร้าง convergence ที่ใหญ่กว่ากลุ่ม true ซึ่งปัจจุบันมีลูกค้ามากเป็นอันดับหนึ่ง 24.5 ล้านเลขหมาย ขณะที่ทีโอทีมีลูกค้าโทรศัพท์พื้นฐานรายใหญ่ถึง 6.2 ล้านเลขหมาย
"ธุรกิจมีแนวโน้มที่จะรวมกลุ่มเพื่อแข่งขันกันมากขึ้น" นายวิเชียร กล่าว
ปัจจุบัน เอไอเอสได้รับไลเซ่นจาก กทช.ในเรื่องของการโทรศัพท์ไปต่างประเทศผ่านระบบมือ และบรอดแบนด์ผ่านโทรศัพท์มือถือ แต่ยังรอไลเซ่น WIMAX ซึ่งอยู่ระหว่างการทดสอบระบบ
ด้านนายกิตติพงศ์ เตมียะประดิษฐ์ รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ทีโอที กล่าวว่า บริษัทไม่ได้ปิดกั้นความร่วมมือเฉพาะแค่เอไอเอสเท่านั้น โดยพร้อมที่จะเปิดกว้างรับพันธมิตรเพิ่มเติม และความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยลดค่าใช้จ่ายเนื่องจากความซ้ำซ้อนในการลงทุน อีกทั้งนำจุดแข็งของพันธมิตรไปช่วยเพิ่มศักยภาพของตนเอง เช่น จุดรับชำระเงิน
--อินโฟเควสท์ โดย เสาวลักษณ์ อวยพร/รัชดา/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--