SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,653.09 จุด ลดลง 0.53 จุด (-0.03%) มูลค่าการซื้อขาย 25,349.84 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ เผยตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวกรอบแคบวอลุ่มบางช่วงตลาดหุ้นภูมิภาคส่วนใหญ่ปิดทำการในเทศกาลตรุษจีน ประกอบกับตอบรับปัจจัยบวกจากต่างประเทศพอสมควรแล้ว อีกทั้งรอติดตามการเลือกตั้งในระยะต่อไป นักลงทุนเลือกเข้าซื้อหุ้นรายตัวและขายทำกำไรหุ้นที่เพิ่งปรับขึ้นอย่างกลุ่มโรงกลั่นและปิโตรเคมี ทำให้มีแรงซื้อสลับขายออกมาทั้งวัน ขณะที่ตลาดยังจับตาการแถลงนโยบายประจำปีของประธานาธิบดีสหรัฐอาจมีผลต่อภาพรวมพรุ่งนี้ ให้แนวรับที่ 1,645 จุด และแนวต้านที่ 1,660 จุด
ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,653.09 จุด ลดลง 0.53 จุด (-0.03%) มูลค่าการซื้อขาย 25,349.84 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและลบ โดยแตะจุดสูงสุดที่ 1,654.98 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,645.57 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 447 หลักทรัพย์ ลดลง 783 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 485 หลักทรัพย์
นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ภาพรวมการลงทุนตลาดหุ้นไทยวันนี้ค่อนข้างเงียบเหงา เนื่องจากตลาดภูมิภาคส่วนใหญ่ปิดทำการในเทศกาลตรุษจีน ทำให้มูลค่าการซื้อขายเบาบาง อีกทั้งตลาดตอบรับข่าวจากต่างประเทศมาค่อนข้างมากแล้ว ส่วนปัจจัยในประเทศแม้การเลือกตั้งจะมีความชัดเจนมากขึ้นหลังเปิดรับสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แล้ว แต่ก็ยังต้องการเห็นภาพการเมืองในระยะต่อไป
ขณะที่ตลาดมีแรงซื้อสลับขายออกมา โดยเฉพาะมีแรงขายในกลุ่มโรงกลั่นและปิโตรเคมีที่เพิ่งปรับตัวขึ้นไปในช่วง 2-3 วัน และมีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นกลุ่มค้าปลีก เป็นลักษณะของการสลับหุ้นลงทุน ส่วนการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ (6 ก.พ.) ไม่น่ามีนัยสำคัญมากนัก เนื่องจาก กนง.ส่งสัญญาณว่าจะยังไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยมาแล้วก่อนหน้านี้
แนวโน้มการซื้อขายวันพรุ่งนี้ คาดว่าวอลุ่มการซื้อขายน่าจะยังเบาบางเพราะตลาดภูมิภาคส่วนใหญ่ยังปิดทำการ แต่ตลาดก็ยังจับตาการแถลงนโยบายประจำปี (State of the Union) ต่อสภาคองเกรสสหรัฐของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งจะมีขึ้นในคืนวันนี้เวลา 21.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับช่วงเช้าวันพุธเวลา 09.00 น.ตามเวลาไทย โดยต้องรอดูว่าท่าทีว่านายทรัมป์จะลดความแข็งกร้าวลงหรือไม่ โดยเฉพาะประเด็นสงครามการค้า หลังจากพรรครีพับลิกันสูญเสียคะแนนเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร (สภาล่าง) ซึ่งอาจมีผลต่อทิศทางค่าเงินดอลลาร์และราคาน้ำมัน
โดยมองแนวรับวันพรุ่งนี้ 1,645 จุด และแนวต้าน 1,660 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 910.54 ล้านบาท ปิดที่ 49.25 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 801.67 ล้านบาท ปิดที่ 125.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
BDMS มูลค่าการซื้อขาย 799.01 ล้านบาท ปิดที่ 23.80 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
AOT มูลค่าการซื้อขาย 699.28 ล้านบาท ปิดที่ 70.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 652.24 ล้านบาท ปิดที่ 78.00 บาท เพิ้มขึ้น 0.25 บาท