บล.กสิกรไทย คาดว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยกรณีเลวร้ายสุดอาจจะร่วงลงไปที่ 680 จุดจากผลกระทบปัญหาเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งจะส่งผลมายังเศรษฐกิจไทยด้วย อาจทำให้เติบโตต่ำกว่า 4% แต่ดัชนีอาจจะรีบาวน์มาที่ 1,080 จุดได้ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ขึ้นอยู่กับมาตรการของทางการด้วย
นายกวี ชูกิจเกษม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.กสิกรไทย (KS) คาดว่า ดัชนีหุ้นไทยปีนี้(2551)มีโอกาสที่จะไหลลงไปถึงระดับ 680 จุด ซึ่งเป็นกรณีที่เลวร้ายสุด มีสาเหตุมาจากเศรษฐกิจสหรัฐเกิดภาวะถดถอย ซึ่งอาจทำให้เศรษฐกิจไทยในปีนี้เติบโตต่ำกว่าระดับ 4%
แต่ดัชนีหุ้นไทยยังมีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นสูงขึ้นได้เช่นกันโดยมองเป้าหมายดัชนีที่ระดับสูงสุดของปีนี้ที่ 1,080 จุด ซึ่งคาดว่าหากเกิดขึ้นก็คงจะเป็นในช่วงครึ่งหลังปี 2551 โดยเชื่อว่าดัชนีอาจปรับตัวลงก่อนแล้วค่อยรีบาวน์กลับขึ้นไป ซึ่งก็ต้องขึ้นอยู่กับมาตรการของภาครัฐด้วยว่าจะเข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจได้มากแค่ไหน อาทิ อาจจะมีการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี ทั้งในส่วนนิติบุคคล และบุคคลธรรมดา ซึ่งจะช่วยให้เศรษฐกิจของบ้านเราไม่อยู่ในภาวะถดถอย
"ปัจจุบันตลาดหุ้นทั่วโลกต่างปรับตัวลงกันอย่างทั่วหน้า มองว่าสาเหตุมาจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าจะมีการหดตัวแค่ไหน ทำให้ทุกคนไม่กล้าเสี่ยงลงทุน เพราะตอนนี้สินเชื่อบุคคล, สินเชื่อเช่าซื้อก็เริ่มที่จะมีการเบี้ยวหนี้กันแล้ว คนเริ่มที่จะไม่จ่ายค่าโทรศัพท์ คนว่างงานก็เพิ่ม และต่อไปจะลามไปที่ไหนอีก ไม่มีใครรู้ ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน"นายกวี กล่าว
นายกวี กล่าวว่า ขณะนี้เริ่มเห็นปัญหาการผิดนัดชำระหนี้ในสหรัฐ โดยมองไปที่เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ของตราสารหนี้(Credit Default Swap:CDS) ซึ่งเห็นได้ว่าเริ่มมีคนมาทำป้องกันความเสี่ยงดังกล่าวกันเป็นจำนวนมากและสลับเปลี่ยนมือผู้ถือตราสารหนี้ ซึ่งมีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 450 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ
"คาดว่าในช่วงกลางปีนี้คงจะได้เห็นกันว่ามีการผิดนัดชำระหนี้กันกี่บริษัท ตรงนี้ก็ไม่รู้ว่าแบงก์ของสหรัฐฯได้ไปลงทุนใน CDS ไว้มากน้อยแค่ไหน ปัญหาที่เกิดขึ้นนี้อาจจะทำให้ต้องมีการ down grade หุ้นกู้อีก และทำให้นักลงทุนจะต้องมีการตั้งสำรองเพิ่มขึ้น ซึ่งก็ไม่รู้จะต้องตั้งเพิ่มอีกเท่าไร"นายกวี กล่าว
--อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/รัชดา/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--