ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดร่วงลงในวันนี้ (22 ม.ค.) นับเป็นสถิติที่ร่วงลงอย่างย่ำแย่ที่สุดในรอบ 1 วัน นับตั้งแต่เดือนต.ค. 2541 โดยตลาดหุ้นร่วงลงอย่างต่อเนื่องติดต่อกันเป็นวันที่ 12 ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะตลาดสินเชื่อทั่วโลกจ รวมทั้งเรื่องภาวะถดถอยของเศรษฐกิจสหรัฐ
จัสติน กัลลาเกอร์ หัวหน้าฝ่ายเทรดดิ้งของเอบีเอ็น แอมโร กล่าวว่า ตลาดวันนี้อธิบายได้ว่าเป็นภาวะตลาดนองเลือดเลยทีเดียว โดยดัชนีดาวโจนส์ที่มีการซื้อขายล่วงหน้าร่วงลง 498 จุด หรือ 4.1% ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่า ตลาดหุ้นนิวยอร์กจะร่วงลงมากกว่านี้ในวันนี้ และพรุ่งนี้ตลาดหุ้นออสเตรเลียก็คงจะไม่หลุดพ้นจากวงจรนี้ไปได้
กัลลาเกอร์กล่าวว่า ในช่วงตลาดปิดเมื่อวานนี้ เราไม่คิดว่าจะมีตลาดในประเทศใดเคลื่อนไหวในแดนบวกได้ และกล่าวว่าตลาดหุ้นออสเตรเลียจะร่วงลง 6% ดังนั้น ความเคลื่อนไหวในตลาดวันนี้จึงช็อคนักลงทุนจำนวนมาก
สำนักข่าวซินหัวไฟแนนซ์รายงานว่า ดัชนี S&P/ASX 200 ปิดร่วง 393.6 จุด หรือ 7.1% ปิดที่ระดับต่ำระหว่างวันที่ 5,186.8 จุด
ภาวะขาดทุนลุกลามไปถึงหุ้นกลุ่มแบงค์ การลงทุน และเหมืองแร่ โดยเฉพาะปัจจัยกระทบจากแรงเทขาย ซึ่งเกิดจากการทำ margin call มากขึ้น
กัลลาเกอร์กล่าวว่า การทำ margin call ในตลาดวันนี้นับเป็นปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นไม่บ่อยครั้งนัก ไม่ต้องสงสัยเลยว่านักลงทุนกำลังจะเทขายหุ้นและจะมีการทำ margin call มากกว่านี้ในวันพรุ่งนี้ เนื่องจากความเคลื่อนไหวในตลาดหุ้นเช่นวันนี้
ในกลุ่มหุ้นแบงค์ใหญ่ๆนั้น หุ้นออสเตรเลีย แอนด์ นิวซีแลนด์ แบงกิ้ง กรุ๊ป ร่วง 7.1% หุ้นเนชั่นแนล ออสเตรเลีย แบงค์ ดิ่ง 6.5% และหุ้นเวสท์แพคตกลง 4.9%
หุ้นแมคควอรี กรุ๊ป ซึ่งเป็นธนาคารการลงทุนชั้นนำ ร่วง 11.4% และหุ้นคู่แข่งอย่างแบ็บคอค แอนด์ บราวน์ ตกลง 18.7%
หุ้นเหมืองชั้นนำอย่างบีเอชพี บิลลิตัน ร่วง 6.7% และหุ้นริโอ ทินดต ดิ่งลง 11.6%
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--