บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) หรือ เอไอเอส คาดการณ์ว่าในปี 62 รายได้จากการให้บริการหลักจะเติบโต ในอัตราเลขตัวเดียวระดับกลางจากการเติบโตของทุกธุรกิจ และคาดว่าจะมีอัตรากำไร EBITDA ใกล้เคียงกับปีก่อน พร้อมวางแผนใช้งบ ลงทุนประมาณ 20,000-25,000 ล้านบาท และมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 70% ของกำไรสุทธิ
ในปีนี้เอไอเอสยังคงมุ่งเน้นกลยุทธ์เสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ซึ่งเป็นธุรกิจหลัก และให้ความสำคัญต่อ การขยายการเติบโตในธุรกิจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงและการให้บริการลูกค้าองค์กร พร้อมผลักดันบริการดิจิทัลเซอร์วิสใหม่ๆ ให้เกิดขึ้น โดยภาพรวม เอไอเอสคาดการณ์รายได้การให้บริการหลักจะเติบโตด้วยอัตราเลขตัวเดียวระดับกลางเมื่อเทียบกับปีก่อน โดยให้ความสำคัญ กับการเพิ่มส่วนแบ่งตลาดในระดับที่เหมาะสม ทั้งเพื่อการรักษาฐานลูกค้าและรายได้ในธุรกิจหลัก และเพื่อการขยายการเติบโตในธุรกิจใหม่
สำหรับธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ คาดว่าการใช้งาน 4G จะยังคงเติบโตต่อเนื่องจากความต้องการใช้งานดาต้าของลูกค้า และ คุณภาพของโครงข่าย 4G ที่ดีขึ้นจากความพร้อมของปริมาณคลื่นความถี่ในการให้บริการ เอไอเอสในฐานะผู้นำตลาดมีเป้าหมายในการรักษา ฐานลูกค้าและรายได้ รวมถึงมุ่งเน้นพัฒนาความแตกต่างของสินค้าและภาพลักษณ์แบรนด์เพื่อการเจาะกลุ่มลูกค้า (segment) ที่มีการเติบโต
ธุรกิจเอไอเอส ไฟเบอร์ หรืออินเทอร์เน็ตบ้าน มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องหลังจากให้บริการมาเป็นระยะเวลา 4 ปี และ ปัจจุบันมีส่วนแบ่งตลาดเชิงผู้ใช้บริการ 8% การมุ่งเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าที่มีคุณภาพทำให้รายได้จากธุรกิจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงมีสัดส่วนเพิ่ม ขึ้น และเป็นกลยุทธ์สาคัญในการเข้าถึงบริการในบ้านให้แก่ลูกค้า ในปีนี้เอไอเอสมีเป้าหมายที่จะมุ่งเน้นการทาตลาดแบบ FMC (Fixed- Mobile Convergence) หรือการผนวกรวมบริการทั้งอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์และโทรศัพท์มือถือเป็นแพ็กเกจรวมที่ให้บริการกับลูกค้า อาศัยการต่อยอดจากฐานลูกค้าโทรศัพท์เคลื่อนที่ และการนาเสนอแพ็กเกจที่ตอบโจทย์กับครอบครัวในบ้านพักอาศัย โดยมุ่งสร้างบริการที่เพิ่ม รายได้ต่อครัวเรือน (ARPH: Average Revenue per Household) และตั้งเป้ามีฐานลูกค้า 1 ล้านราย หรือคิดเป็นส่วนแบ่งตลาด ประมาณร้อยละ 10
ด้านธุรกิจบริการลูกค้าองค์กร (Enterprise business) หลังจากเข้าซื้อกิจการของซีเอสลอกซ์ในปีที่แล้ว ได้ดำเนินการ ปรับกระบวนการทำงานและแนวทางกลยุทธ์ให้สอดคล้องและพร้อมต่อการเติบโต โดยในปีนี้เอไอเอสคาดว่าจะสามารถเติบโตในการให้ บริการอินเทอร์เน็ตสาหรับลูกค้าองค์กร (Enterprise Data Service) ได้ต่อเนื่อง พร้อมใช้ประโยชน์จากความแข็งแกร่งของทั้งเอไอ เอสและซีเอสลอกซ์ ในการให้บริการคลาวด์ ดาต้าเซ็นเตอร์ บริการ ICT ครบวงจร (ICT Managed Service) รวมทั้งสร้างการเติบ โตในการให้บริการอุตสาหกรรมอื่น โดยสรุป เอไอเอสคาดว่ารายได้จากการให้บริการลูกค้าองค์กร (รวมส่วนที่เป็นบริการโทรศัพท์เคลื่อน ที่) ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 10% ของรายได้การให้บริการรวม จะยังคงเติบโตในอัตราเลขตัวเดียวระดับสูง (High single digit) ในปี 62
เอไอเอสยังคงเน้นการบริหารต้นทุนผ่านการพัฒนากระบวนการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มีโครงสร้างต้นทุนที่เหมาะสม กับสภาวะตลาดและการแข่งขัน ทั้งนี้ เพื่อสนับสนุนการเติบโตในปี 62 เอไอเอสจะยังคงงบการตลาดที่เพียงพอเพื่อรักษาความเป็นผู้นำใน ตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่ รวมถึงการขยายการเติบโตในธุรกิจอื่นๆ นอกจากนี้ ยังคงแผนการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการพัฒนาระบบการทำงาน และการบริการเพื่อรักษาระดับต้นทุนให้เหมาะสม ในขณะที่มีการลงทุนขยายโครงข่ายต่อเนื่องเพื่อรองรับการเติบโต
โดยรวมคาดว่าอัตรากำไร EBITDA (คำนวณจาก EBITDA หารด้วยรายได้รวม) ในปี 62 จะใกล้เคียงกับปี 61 ทีมี EBITDA margin อยู่ที่ 43.4% ทั้งนี้ ด้วยปัจจุบันที่เอไอเอสมีคลื่นความถี่หลากหลายในย่าน 900/1800/2100 เมกะเฮิรตซ์ เพื่อพร้อม รองรับการเติบโตของ 4G/3G จึงตั้งงบลงทุนสำหรับปี 62 ใกล้เคียงกับปีก่อนที่ 20,000-25,000 ล้านบาท สำหรับเสริมความจุของ 4G เป็นหลัก โดยคำนึงถึงรูปแบบของการใช้งานโครงข่าย 5G ในอนาคต และเน้นรักษาสมดุลระหว่างการลงทุนและการสร้างผลตอบแทน ทั้งนี้ งบการลงทุนดังกล่าวได้รวมงบสำหรับการขยายธุรกิจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง 4,000-5,000 ล้านบาท
เอไอเอสให้ความสำคัญต่อการรักษาสถานะทางการเงินให้แข็งแกร่งและมีความคล่องตัวเพื่อสร้างการเติบโตในอนาคต นโยบายการจ่ายเงินปันผลจะจ่ายไม่ต่ำกว่า 70% ของกำไรสุทธิ ซึ่งจะทำให้เอไอเอสมีกระแสเงินสดเพื่อเพิ่มความคล่องตัวทางการเงินซึ่ง เป็นปัจจัยสำคัญต่อการเป็นผู้นำตลาด ความสามารถในการแข่งขัน และโอกาสในการเติบโตของธุรกิจ รวมถึงพร้อมรับต่อสภาวะการณ์ ต่างๆ ที่อาจเปลี่ยนแปลง
เอไอเอสยังคงการจ่ายเงินปันผลปีละสองครั้งจากผลการดำเนินงานบริษัทและกำไรสะสมบนงบการเงินเฉพาะกิจการ ทั้งนี้ การจ่ายเงินปันผลในทุกกรณี จะขึ้นอยู่กับกระแสเงินสดและแผนการลงทุน รวมถึงความจำเป็นและความเหมาะสมอื่นๆ ในอนาคตของบริษัท และ/หรือบริษัทย่อย และการจ่ายเงินปันผลดังกล่าวจะต้องไม่เกินกำไรสะสมที่ปรากฏในงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัทและ/หรือมีผล กระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อการดำเนินงานปกติของบริษัทและบริษัทย่อย
ADVANC ยังแจ้งการจ่ายปันผลอัตรา 3.30 บ./หุ้น XD 20 ก.พ.
เรื่อง : จ่ายปันผลเป็นเงินสด วันที่คณะกรรมการมีมติ : 07 ก.พ. 2562 ชนิดการปันผล : จ่ายปันผลเป็นเงินสด วันกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) : 21 ก.พ. 2562 วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล(XD) : 20 ก.พ. 2562 จ่ายให้กับ : ผู้ถือหุ้นสามัญ อัตราการจ่ายปันผลเป็นเงินสด (บาทต่อหุ้น) : 3.30 มูลค่าที่ตราไว้ (Par)(บาท) : 1.00 วันที่จ่ายปันผล : 18 เม.ย. 2562 จ่ายปันผลจาก : งวดดำเนินงานวันที่ 01 ก.ค. 2561 ถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2561