นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะพักตัวลง เหตุกังวลเศรษฐกิจโลกหลังจากที่คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจยูโรโซนปีนี้ลง และผลการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ได้คงอัตราดอกเบี้ย และได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจอังกฤษในปีนี้ สู่ระดับ 1.2% จากเดิมที่ระดับ 1.7%
นอกจากนี้ ทางประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯก็จะไม่เจรจากับผู้นำจีนก่อนวันที่ 1 มี.ค. ซึ่งเป็นเส้นตายที่ทั้งสองฝ่ายกำหนดไว้สำหรับการบรรลุข้อตกลงทางการค้า ซึ่งตรงนี้อาจทำให้สหรัฐฯปรับขึ้นภาษีรอบใหม่ได้ อีกทั้งราคาน้ำมันก็ปรับตัวลง 2% ตามตลาดหุ้นทั่วโลก จากความกังวลเศรษฐกิจชะลอตัว โดยดาวโจนส์เมื่อคืนที่ผ่านมาปรับตัวลง และตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ก็ปรับตัวลงมากกว่า 1%
พร้อมให้แนวรับ 1,640-1,645 จุด ส่วนแนวต้าน 1,660 ถัดไป 1,665-1,668 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (7 ก.พ.62) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,169.53 จุด ร่วงลง 220.77 จุด (-0.87%) ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,706.05 จุด ลดลง 25.56 จุด (-0.94%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,288.35 จุด ลบ 86.93 จุด (-1.18%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 240.78 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 282.08 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 11.41 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 22.73 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 4.88 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ลดลง 8.60 จุด
ส่วนตลาดหุ้นจีน, ตลาดหุ้นไต้หวัน ยังคงปิดทำการวันนี้เนื่องในเทศกาลตรุษจีน
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (7 ก.พ.62) 1,653.11 จุด ลดลง 5.60 จุด (-0.34%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 268.98 ล้านบาท เมื่อวันที่ 7 ก.พ.62
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มี.ค. ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (7 ก.พ.62) ปิดที่ 52.64 ดอลลาร์/บาร์เรล ร่วงลง 1.37 ดอลลาร์ หรือ 2.5%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (7 ก.พ.62) ที่ 2.47 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 31.26/28 แนวโน้มแกว่งกรอบแคบ ไร้ปัจจัยใหม่ มองกรอบ 31.20-31.40
- อัยการเผยประชุมอนุกรรมการ คัดเลือกไฮสปีดนัดแรก ไร้ข้อสรุป นัดถกใหม่ 12 ก.พ. "วรวุฒิ"เผย"ซีพี"ถอนข้อเสนอได้ตลอดเวลา ยืนยันไม่ตัดสิทธิ์"บีเอสอาร์" ระบุข้อเสนอขอเงินอุดหนุนเกินกรอบ ครม.กำหนด ไม่ขัดทีโออาร์
- "พาณิชย์"ตั้งรับสงครามการค้า ห่วงส่งออกไปสหรัฐ-จีนทรุด เร่งแผนหาตลาดใหม่ นักเศรษฐศาสตร์เตือนผู้ส่งออกอย่าพึ่งค่าเงิน ชี้ถูกพยุงค่าเงินให้อ่อนกว่าข้อเท็จจริง สรท.นัดพบ ธปท. 4 มี.ค.นี้ หารือแนวทางดูแลค่าเงิน ด้านสศช.จับตาสงครามการค้ายืดเยื้อ
- TDRI ท้วง กสทช.เร่งประมูลคลื่น 700MHz แนะทำ แผนแม่บท 5G ให้ชัดเจนก่อน ชี้ "กสทช.รักษาการ" ทำเรื่องนี้ไม่เหมาะ
- สรท.ห่วงเงินบาทแข็งค่า 31 บาท/ดอลลาร์ ทำส่งออกปี 2562 โต 0% เตรียมถกผู้ว่าการแบงก์ชาติ 4 มี.ค.นี้ ส่งสัญญาณตรึงดอกเบี้ย
- "สมอ." ประกาศยกระดับมาตรฐานรถจักรยานยนต์สู่ระดับมาตรฐานไอเสียยูโร 4 จากเดิมยูโร 3 เพื่อช่วยลดมลพิษให้เวลา ผู้ประกอบการปรับคาดมีผลสิ้นปี ยอมรับราคาจ่อขยับ 10-15% ขณะที่ สศอ.เรียกค่ายรถถก 8 ก.พ.นี้ยกระดับการผลิตรถยนต์รุ่นใหม่เป็น มาตรฐานยูโร 5
- สถาบันไฟฟ้าฯคาดส่งออกอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ปี 2562 โต 3.26% คิดเป็นมูลค่าราว 64,133.26 ล้านเหรียญสหรัฐ เหตุเชื่อเศรษฐกิจคู่ค้าหลักจะ ปรับเพิ่มขึ้นทั้ง ญี่ปุ่น อียูและอาเซียนหลังส่งออกปี 2561 มีมูลค่า 62,108.53 ล้านเหรียญสหรัฐ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.16% เผยสงครามการค้าฉุดส่งออก ไปตลาดจีน และสหรัฐฯ วูบ
- หอการค้าไทย ห่วงดอกเบี้ยขึ้นกระทบต้นทุนเอสเอ็มอีพุ่ง แนะทำบัญชีเดียวช่วยเปิดทางเข้าถึงแหล่งเงินทุนง่ายขึ้น
- "สมคิด"กระทุ้งรัฐวิสาหกิจลงทุนหวังช่วยพยุงเศรษฐกิจปีนี้โต 4% เบรกข้าราชการอย่าเกียร์ว่างในช่วงนี้ ระบุยังมีเวลาของรัฐบาลชุดนี้อีก 3-4 เดือน สคร.ระบุให้กระทรวงที่สังกัดช่วยกระตุ้น โดยเฉพาะ 'รฟท.-ทอท.'
*หุ้นเด่นวันนี้
- BEM (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 11.8 บาท ยังมั่นใจได้ต่อสัญญาสัมปทานทางด่วนอีก 37 ปีภายในเดือน มี.ค.นี้ เพิ่ม Valuation ให้ BEM 2.9 บาทต่อหุ้น อีกทั้งยังปลดล็อก Overhang ของสัญญาสัมปทานเดิมที่จะหมดอายุในปี 2563
- BJC (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 66 บาท คาดกำไร Q4/61 ที่ 1,725 ลบ. (+4% Q-Q, -6% Y-Y) โดยคาด SSSG ของ BIGC ยังโตได้ 1-2% Y-Y ขณะที่ต้นทุนผลิตกระป๋องและเศษแก้วเริ่มลดลง แต่กำไรที่คาดลด Y-Y มาจากฐานสูงในปีก่อน คาดกำไรปกติทั้งปี 2561 จบที่ 6,275 ลบ. +20% Y-Y และปี 2562 คาด +17% Y-Y อยู่ที่ 7,333 ลบ. และยอด Short Sales เฉลี่ยต่อวันใน ก.พ. 19 ลดลง 88% M-M เหลือเพียง 46,350 หุ้น/วัน และ NVDR ซื้อเพิ่ม 2 สัปดาห์ติดต่อกันรวม 6 ล้านหุ้น ถืออยู่ 145.16 ล้านหุ้น
- ADVANC (แอพเพิล เวลธ์) "ซื้อ"เป้า 215 บาท กำไรสุทธิปี 2561 ที่ 2.96 หมื่น ลบ. -1.3%YoY ต่ำกว่าคาดการณ์เล็กน้อย โดยคาดการแข่งขันของกลุ่มสื่อสารในปี 2562 จะยังคงสูง ปีนี้ประเมินการเติบโตมีลักษณะค่อยเป็นค่อยไป เบื้องต้นคาดการณ์กำไรสุทธิของปี 2562 ที่ 3.12 หมื่น ลบ. +5.33% YoY พร้อมประกาศจ่ายปันผล 3.30 บาท โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 20 ก.พ. 62 จ่ายจริง 18 เม.ย. 62 คิดเป็น Dividend Yield 1.79%