นายฐากร ปิยะพันธ์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านกรุงศรี คอนซูมเมอร์ และผู้บริหารสายงานดิจิทัลแบงก์กิ้งและนวัตกรรม ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) เปิดเผยว่า ทิศทางการดำเนินงานในการผลักดันกรุงศรี โมบาย แอพพลิเคชั่น (KMA) สู่การเป็นแพลตฟอร์มสำหรับโลกการเงินในอนาคต ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม API Open Banking, AI และ Big Data & Intelligence ในปี 62 ธนาคารได้ทุ่มงบกว่า 800 ล้านบาทในการพัฒนา KMA และขับเคลื่อนกลยุทธ์บน 3 แกนหลัก คือ Acquisition, Services และ Marketing โชว์ฟีเจอร์ใหม่หลากหลายบริการ ซึ่งจะทยอยออกมาสร้างประสบการณ์การใช้งานที่เหนือกว่าตลอดปี 62 เช่น การเปิดบัญชีออมทรัพย์ เปิดบัญชีกองทุน และเปิดบัญชีหุ้น ผ่าน KMA ซึ่งจะเกิดขึ้นพร้อม ๆ กับการสมัครและยืนยันตัวตนผ่าน Digital ID และ e-KYC
ขณะที่ในส่วนของการสมัครสินเชื่อยานยนต์และสินเชื่อบ้าน ผ่าน KMA จะทยอยเกิดขึ้นตั้งแต่ในช่วงไตรมาส 2/62 และตามมาด้วยการซื้อประกันอุบัติเหตุ การเดินทาง และสุขภาพ ผ่าน KMA ในไตรมาส 3/62
พร้อมกันนี้ ธนาคารตั้งเป้าขยายฐานลูกค้าผู้ใช้งาน KMA เพิ่มขึ้นเป็น 5 ล้านรายในปี 62 จากปีก่อนที่มีจำนวนลูกค้าใช้ KMA รวมทั้งสิ้น 2.5 ล้านราย โดยความสำเร็จของ KMA ในปี 61 ที่ผ่านมามีจำนวนผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 2.5 ล้านราย ปริมาณธุรกรรมสูงถึง 1,000 ล้านรายการใน 1 ปี หรือเพิ่มขึ้น 100% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ด้วยสถิติยอดธุรกรรมสูงสุดถึง 7,000 รายการต่อนาที คิดเป็นมูลค่าธุรกรรมรวมกว่า 5 แสนล้านบาทในปีที่ผ่านมา โดยมี 5 ประเภทธุรกรรมยอดนิยม ได้แก่ การเช็คยอด ดูรายการเดินบัญชี โอนเงิน จ่ายบิล และเติมเงิน
สำหรับฟีเจอร์ใหม่ที่เกิดขึ้นในปี 61 ถือว่าได้รับการตอบรับที่ดีจากจากลูกค้าผู้ใช้งาน บริการกดเงินไม่ใช้บัตร (Krungsri Cardless) มียอดธุรกรรมเกิดขึ้นราว 3 ล้านรายการ คิดเป็นมูลค่ากว่า 6 พันล้านบาท บริการชำระเงินผ่าน QR Code มีมูลค่ากว่า 1.7 พันล้านบาท Krungsri GIFT มีลูกค้าเข้ามาแลกรับ GIFT กว่า 400,000 ครั้ง
ในส่วนของ Digital Lending มีผู้สมัครขอใช้บริการสินเชื่อส่วนบุคคล Krungsri iFIN ราว 30,000 ใบสมัคร สมัครบัตรเครดิตกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ ราว 3,000 ใบสมัครภายใน 1 เดือน รวมทั้งในด้านการลงทุนและบริหารความมั่งคั่ง มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการ Krungsri Smart Advisor ราว 80,000 ครั้ง และมียอดการซื้อกองทุนผ่าน KMA ราว 1.3 หมื่นล้านบาท ซึ่งตัวเลขทั้งหมดเป็นเครื่องยืนยันถึงความสำเร็จและความเติบโตอย่างแข็งแกร่งของ KMA ในปีที่ผ่านมา
สำหรับปี 62 ธนาคารยังคงพัฒนาแพลตฟอร์ม KMA อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเมื่อโครงการ NDID (National Digital ID) และ e-KYC สมบูรณ์แบบมากขึ้น และในส่วนของการบริการลูกค้าจะได้รับความสะดวกมากขึ้นในการจัดการบัตรเครดิต สมัครบริการบัตรต่าง ๆ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการซื้อของผ่านช่องทางออนไลน์จะสามารถซื้อสินค้าและชำระเงินผ่าน Facebook Pay และชำระเงินผ่าน QR Code ด้วยบัตรเครดิต VISA และ MASTERCARD รวมทั้งการใช้ QR Code เพื่อชำระค่าสินค้าในต่างประเทศ
นอกจากนี้การพัฒนา KMA ให้เป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยส่งเสริมการตลาด ด้วยการเป็น e-Marketplace หรือแพลตฟอร์มที่สามารถซื้อ-ขายสินค้าและบริการต่าง ๆ ได้ จะเปิดให้พันธมิตรสามารถเพิ่มยอดขายด้วยการใช้พื้นที่ KMA e-Marketplace ในการเข้าถึงลูกค้าด้วยโปรโมชั่นพิเศษต่าง ๆ ขณะที่ลูกค้าผู้ใช้งาน KMA จะได้รับสิทธิพิเศษหรือส่วนลดเมื่อเลือกซื้อสินค้าและบริการต่าง ๆ รวมทั้งชำระเงินค่าสินค้าผ่าน KMA ซึ่งกรุงศรีเชื่อว่า KMA e-Marketplace จะเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะส่งเสริมและรักษาความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างลูกค้าและธนาคาร
"KMA จะก้าวสู่การเป็นแพลตฟอร์มสำหรับโลกการเงินในอนาคต ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม API Open Banking, AI และ Big Data & Intelligence โดยในปีนี้จะเดินหน้าขับเคลื่อนใน 3 แกนหลัก คือ การขยายฐานลูกค้า ที่ทำให้การสมัครใช้งานทุกผลิตภัณฑ์ทางการเงินเป็นเรื่องง่าย การบริการที่ทำให้ทุกธุรกรรม ครบ จบในที่เดียว และการตลาด ผ่านแคมเปญต่าง ๆ" นายฐากร กล่าว