นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสที่จะลุ้นรีบาวด์ขึ้นได้ โดยเฉพาะเมื่อดัชนีฯลงมาพักตัวแถว 1,630 จุด ซึ่งเป็นแนวสำคัญทางเทคนิค เนื่องจากได้เห็นสัญญาณการฟื้นตัวจากตลาดหุ้นทั่วโลก โดยตลาดในยุโรปเมื่อคืนที่ผ่านมาได้อยู่ในแดนบวกกัน เช่นเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ค่อนไปในทางบวก แม้ว่าดัชนีดาวโจนส์จะติดลบ แต่ดัชนี S&P500 และดัชนี Nasdaq อยู่ในแดนบวก
โดยมาจากความคาดหวังในเชิงบวกจากเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ในวันที่ 14-15 ก.พ.นี้ และยังต้องติดตามความคืบหน้าในเรื่องการแยกตัวของสหราชอาณาจักรออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) รวมถึงการปิดหน่วยงานรัฐบาล (ชัตดาวน์) ของสหรัฐฯ หลังในวันที่ 15 ก.พ.ครบกำหนดที่งบประมาณชั่วคราวสำหรับหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯจะหมดลง
ทั้งนี้ เมื่อคืนที่ผ่านมาทาง MSCI ก็มีการทบทวนดัชนีฯแต่ก็ไม่มีหุ้นไทยเข้าหรือออก อย่างไรก็ดีให้ติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนต่อไป
พร้อมให้แนวรับ 1,630 จุด ส่วนแนวต้าน 1,642 ถัดไป 1,645-1,650 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (11 ก.พ.62) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,053.11 จุด ลดลง 53.22 จุด (-0.21%) ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,709.80 จุด เพิ่มขึ้น 1.92 จุด (+0.07%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,307.90 จุด เพิ่มขึ้น 9.71 จุด (+0.13%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 109.38 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 0.13 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 50.53 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 27.83 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 1.98 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 3.41 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 3.66 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 15.06 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (11 ก.พ.62) 1,638.00 จุด ลดลง 13.68 จุด (-0.83%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,596.19 ล้านบาท เมื่อวันที่ 11 ก.พ.62
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มี.ค. ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (11 ก.พ.62) ปิดที่ 52.41 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 31 เซนต์ หรือ 0.6%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (11 ก.พ.62) ที่ 3.02 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 31.39/41 แนวโน้มแกว่งแคบ รอปัจจัยใหม่ มองกรอบวันนี้ 31.30-31.50
- กกต.ลงมติรับรอง 45 พรรคการเมือง เสนอ 69 รายชื่อบัญชีนายกรัฐมนตรี ตั้งคณะคณะกรรมการไต่สวนข้อร้องเรียน พรรคไทยรักษาชาติ ปมชงชื่อนายกฯ 'บิ๊กตู่' ฮึ่มไล่เอาผิดมือปลอมคำสั่ง ม.44 ปลด ผบ.เหล่าทัพ
- "สมคิด" กระทุ้งเบิกจ่ายโครงสร้างพื้นฐานโค้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้ง จี้ประมูล 21 โปรเจค มูลค่ากว่า 1.29 ล้านล้านบาท เร่งการบินไทยจัดหาฝูงบิน ดันไฮสปีด 3 สาย "อาคม" รับลูกทยอยชง ครม.ภายใน ก.พ.-มี.ค.นี้ ประเดิมประมูล 6 โครงการ ปักหมุดลงนามกลางปี 2562
- นักลงทุนต่างชาติตื่นการเมืองไทย ค่าความเสี่ยงพันธบัตรพุ่งสูงสุดรอบ 3 เดือน ซ้ำเงินบาทอ่อนสวนทางตลาด
- "คณิศ" มั่นใจรัฐบาลพร้อมปัดทุกข้อซีพีชิงเค้กโครงการไฮสปีด ปัดขยายสัมปทาน 99 ปีบวกการันตีรายได้ สั่งเร่งเมกะโปรเจคอีอีซี 5 แสนล้านบาทได้ตัวเอกชนก่อนเลือกตั้ง ด้าน "สมคิด" บุกคมนาคม บี้โปรเจคบก-น้ำ-ราง-อากาศ สปีดเครื่องให้สรุปภายใน ก.พ.-มี.ค.นี้
- "อภิศักดิ์" สั่งเข้ม สศค.คุย ธปท.ทำหน้าที่ดูแลบาทแข็งให้รวดเร็วและทันสถานการณ์ แจงเงินแข็งค่ากว่าคู่แข่งกระทบส่งออก-เศรษฐกิจ พร้อมกระตุ้นห้ามเกียร์ว่าง ดันเศรษฐกิจปีนี้ขยายตัว 4%
*หุ้นเด่นวันนี้
- KKP (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 76 บาท การเติบโตอาจไม่น่าสนใจ เพราะคาดกำไรปี 2562 ชะลอ 2% Y-Y อยู่ที่ 5.9 พันล้านบาท เนื่องจากฐานปีก่อนสูง แต่เงินปันผลยังจูงใจและมีโอกาสถูกใช้เป็นแหล่งพักเงินในระยะนี้ โดยคาดงวด 2H61 ที่ 3 บาท/หุ้น คิดป็นผลตอบแทน 4% จากการถือเพียง 2 เดือน ด้านราคาหุ้นยัง Underperform แบงก์ใหญ่และ TISCO อยู่ราว 3% และมักขึ้นสวนกระแสในช่วงที่ Bank Index พักฐาน
- ERW (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 8.2 บาท รับผลบวกจำนวนนักท่องเที่ยวจีนฟื้นตัวต่อเนื่องโดยเดือน ม.ค.มีโอกาสพุ่งแตะระดับ 1 ล้านคน อีกครั้งเป็นบวกต่อกลุ่มท่องเที่ยว จึงเลือก AOT และ ERW เป็น toppick ของกลุ่ม
- AAV (เคทีบีฯ) "ซื้อ"เป้า 5.00 บาท ประเมิน Q4/61 จะมีผลขาดทุนสุทธิ 56 ล้านบาท ต่ำกว่าที่เคยคาดว่าจะมีกำไร โดยลดลงเทียบ YoY แต่ดีขึ้น QoQ อย่างไรก็ตาม มองว่าผลการดำเนินงานได้ผ่านจุดต่ำสุดแล้วใน Q3/61 ทำให้ทั้งปี 2561 จะมีกำไรสุทธิ 284 ล้านบาท ลดลง 81% YoY สำหรับปี 2562 ยังคงประเมินกำไรสุทธิที่ 885 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 225% YoY จากภาพรวมการท่องเที่ยวที่จะกลับมาเติบโต โดยประเมินจำนวนผู้โดยสารเติบโต 9% YoY และต้นทุนราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ลดลง ทั้งนี้ คาดว่าผลการดำเนินงาน Q1/62 จะเริ่มพลิกกลับมามีกำไรได้ และดีขึ้นมา QoQ แต่ยังลดลง YoY จากฐานที่สูงในปีก่อน อย่างไรก็ตาม คาดว่าผลการดำเนินงานจะกลับมาเติบโต YoY ต่อเนื่องในได้ใน Q2/62 - Q4/62