นายคาลิด มอยนูดดิน ฮาชิม กรรมการผู้จัดการ บมจ.พรีเชียส ชิพปิ้ง (PSL) ยอมรับว่า ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมาค่าระวางเรือของบริษัทปรับลดลงกว่า 50% ต่ำกว่าช่วงปกติที่ต้นปีผลสำรวจจากเจพีมอร์แกนระบุว่าค่าระวางเรือจะปรับลดลงราว 45% เนื่องจากได้รับผลกระทบหลักจากสงครามทางการค้าระหว่างประเทศจีนและสหรัฐ รวมไปถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนด้วย
แต่อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าหลังจากเดือน มี.ค. ค่าระวางเรือจะปรับตัวดีขึ้น และทั้งปีจะสามารถเติบโตได้มากกว่าเศรษฐกิจโลกที่คาดว่าจะมีการเติบโต 3% โดยคาดว่าผลประกอบการของบริษัทคาดว่าจะเติบโตมากกว่า 4% ถึงแม้จะมีผลกระทบจากสงครามทางการค้า แต่มองว่าทั้งสหรัฐและจีนจะหาสินค้าในประเทศอื่นๆ เข้ามาทดแทน
นายคาลิค กล่าวอีกว่า ในปีนี้บริษัทยังไม่มีแผนขยายกองเรือ และไม่มีแผนการขายเรือออก โดยปัจจุบันบริษัทมีกองเรืออยู่ทั้งหมด 36 ลำ มีอายุเฉลี่ย 7 ปี ซึ่งเรือยังมีอายุการใช้งานได้อีกถึง 20-25 ปี ขณะที่ปีนี้การต่อเรือใหม่เข้าสู่อุตสาหกรรมถือว่าน้อยมาก หรือเติบโตเพียง 3%
"แม้ว่าช่วงต้นปีนี้ค่าระวางเรือจะต่ำลงค่อนข้างมาก ด้วยเป็นช่วงโลว์ซีซั่น และผลกระทบจากสงครามทางการค้า แต่อย่างไรก็ตามเราก็ยังคงเชื่อว่าทั้งปีจะเติบโตได้กว่า 4% ซึ่งเชื่อว่าความต้องการขนส่งยังเติบโต โดยทั้ง 2 ประเทศคือสหรัฐ และจีน จะมีการนำเข้าสินค้าของประเทศอื่นทดแทน อาทิเช่นการขนส่งถั่วเหลืองจากประเทศบราซิล ไปประเทศจีน ซึ่งมีเส้นทางการขนส่งที่ไกลกว่าด้วย"นายคาลิด กล่าว
นอกจากนั้น ในปี 62 นี้บริษัทเตรียมพิจารณาชำระคืนหนี้ระยะยาวก่อนกำหนด ตามที่บริษัทได้ดำเนินการมาต่อเนื่อง 2 ปีติดต่อกันแล้ว เพื่อลดต้นทุนดอกเบี้ยเฉลี่ยรวมลงจากปัจจุบันอยู่ที่ 2.5%