นายจุมพล เตชะไกรศรี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บมจ.ที.กรุงไทยอุตสาหกรรม(TKT)เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"คาดว่าจะได้ข้อสรุปพันธมิตรใหม่จากต่างประเทศภายในปลายไตรมาส 1/51 โดยบริษัทได้เริ่มต้นหารือกับผู้ผลิตรถยนต์ในประเทศอินเดียและญี่ปุ่นที่สนในเข้ามาร่วมทุน หลังจากที่การเจรจากับพันธมิตรจากญี่ปุ่นรายเก่าได้ยกเลิกไปเพราะการสั่งซื้อสินค้ามีน้อยไม่คุ้มค่าลงทุน
จากการหารือในเบื้องต้นกับพันธมิตรแต่ละรายแล้ว หากได้พันธมิตรจากอินเดียก็จะเป็นการขยายช่องทางในการส่งสินค้า นอกเหนือจากการส่งขายผ่านดีลเลอร์ ส่วนหากเป็นผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นที่ปัจจุบันเป็นลูกค้าหลักและยังเป็นการเพิ่มยอดขายด้วย แต่หากได้พันธมิตรญี่ปุ่นจะช่วยในด้านเทคโนโลยีและลูกค้าใหม่ๆด้วย
"เรายังคงเปิดกว้างในการหาพันธมิตรเพื่อต่อยอดการเติบโต แต่การเลือกพันธมิตรเราอาจจะเลือกทั้ง 2 รายก็ได้รวมทั้งรูปแบบก็อาจจะแตกต่างไปจากเดิม เช่น ไม่ได้มุ่งผลิตโมเดลในประเทศอย่างเดียวแต่ส่งออกด้วยจากพันธมิตรรายเดิมที่คุยเป็นการร่วมมือเพื่อทำออเดอร์ในประเทศเท่านั้น"นายจุมพลกล่าว
นายจุมพล กล่าวต่อว่า ปัจจุบันบริษัทมีออเดอร์ในมือที่มาจากลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่ประมาณ 900 ล้านบาท จึงไม่น่าจะยากในการที่จะทำรายได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ในปี 51 ประมาณ 1 พันล้านบาท หรือเติบโต 15% จากปี 50 ที่คาดว่าจะมีรายได้ 840 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีคำสั่งซื้อเพิ่มจากลูกค้ารายเดิม รวมถึงลูกค้ามิตซูบิชิ มอเตอร์ ซึ่งเป็นลูกค้ารายใหม่เข้ามา
ในขณะเดียวกันในปีนี้บริษัทจะพยายามลดของเสียที่เกิดจากกระบวนการผลิตพลาสติกให้ลดลงต่ำกว่า 3% จากปัจจุบันที่ 5% เพื่อให้ Gross Margin เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันอยู่ในระดับที่ 17-18% ส่วนภาพรวมการผลิตรถยนต์ในปีนี้คาดว่าจะเติบโตประมาณ 10-15% จาก 1.2-1.25 ล้านคัน
สำหรับแผนการลงทุนในปีนี้ได้วางงบลงทุนประมาณ 40 ล้านบาทในการปรับปรุงการผลิตรวมทั้งการเพิ่มกำลังการผลิตด้วย แต่อย่างไรก็ตามอยู่ระหว่างศึกษาในการนำเข้าเครื่องจักรใหม่เพื่อเสริมกำลังการผลิตเกี่ยวกับชิ้นส่วนรถยนต์ให้มากขึ้น โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งหากเป็นไปตามขั้นตอนคาดว่าจะต้องใช้เงินลงทุนเพิ่มเป็น 100 ล้านบาท โดยเงินดังกล่าวจะมาจากเงินสดหมุนเวียนของบริษัทและส่วนหนึ่งจะกู้จากสถาบันการเงิน
--อินโฟเควสท์ โดย จริญยา ดำสมาน/นิศารัตน์/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--