โบรกเกอร์มองเฟดปรับลดดอกเบี้ยฉุกเฉิน 0.75% เหนือความคาดหมาย เห็นชัดช่วยด้านจิตวิทยาที่สะท้อนมาถึงตลาดหุ้น และคาดแนวโน้มเฟดจะลดดอกเบี้ยลงอีก เพื่อแก้ไขปัญหาซับไพร์มและพยุงภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐต่อเนื่อง ขณะเดียวกันคาดว่าส่งสัญญาณให้อัตราดอกเบี้ยไทยลดลงในไตรมาส 2 หรือครึ่งปีหลัง ราว 0.25-0.50% และเงินดอลลาร์สหรัฐจะอ่อนค่า คาดมีเม็ดเงินไหลเข้าตลาดหุ้นไทย เชื่อม.ค.ถึงจุดต่ำสุดแล้วเป็นจังหวะเข้าลงทุน
นายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการ สมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ กล่าวว่า ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อประคับประคองเศรษฐกิจในประเทศ ซึ่งคาดการณ์ว่าจะได้เห็นการปรับลดดอกเบี้ยลงอีกจนกว่าจะถึงระดับ 3% หรือ 2.5 % อย่างไรก็ตาม ปัญหาซับไพร์มคงยังไม่จบ เพราะสภาพธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ยังไม่แข็งแรงต้องใช้เวลาอีกสักพักในการแก้ไขปัญหา
ทั้งนี้ การปรับลดดอกเบี้ยของสหรัฐดังกล่าวจะเป็นการส่งสัญญาณให้อัตราดอกเบี้ยในไทยปรับลดไปด้วย คาดว่าภายในไตรมาส 2/51 อัตราดอกเบี้ยของไทยน่าจะปรับลดลงตาม และปัจจัยดังกล่าวยังทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง แต่ค่าเงินบาทจะแข็งค่า จะส่งผลให้มีเม็ดเงินกลับเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทย โดยจะเห็นสัญญาณกลับมาดีในไตรมาส 2 และทำให้มูลค่าหุ้นเพิ่มขึ้นด้วย
"การปรับลดดดอกเบี้ยสหัฐครั้งนี้ถือว่าเยอะ และเป็นการตัดสินใจที่ไม่คาดคิด แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นคงยังไม่จบ" นายสมบัติ กล่าว
นายสุกิจ อุดมศิริกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานวิจัย บล.นครหลวงไทย กล่าวว่า จากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของนสหัฐ เร็วกว่าที่คาดและปรับลดมากกว่าที่คาดไว้ที่ 0.50% เป็น 0.75% จะส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า และช่วยชะลอการถดถอยของภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ มากกว่าความกังวลในเรื่องภาวะเงินเฟ้อ โดยทั้งปีคาดว่า เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยลง 2-3%
ส่วนอัตราดอกเบี้ยของไทยน่าจะปรับลดลงในช่วงครึ่งปีหลัง โดยปรับลด 0.25-0.50% ขณะที่ตลาดหุ้นไทยที่ปรับลงวานนี้ เป็นจังหวะเข้าซื้อ โดยเมื่อประเมินจากอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศในปีนี้ GDP ที่ 4.5% และผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนจะโต 15% คาดว่าจะเห็นระดับดัชนี SET ในช่วง 800-900 จุด
"ในเดือนมกราคม เชื่อว่าจะเป็นจุดต่ำสุดแล้ว แต่ความผันผวนในปี 51 จะสูงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ดังนั้นนักลงทุนต้องระมัดระวังในการลงทุน และต้องแยกแยะปัจจัยภายนอกประเทศและภายในประเทศ ซึ่งยังน่าลงทุน" นายสุกิจ กล่าว
นายรพี สุจริตกุล ประธานกรรมการ บล.กสิกรไทย ให้ความเห็นว่า ยังไม่แน่ใจว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐวานนี้จะช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจสหรัฐที่อยู่ในภาวะถดถอยได้มากแค่ไหน รวมถึงความเสียหายของปัญหาซับไพร์มที่สหรัฐเผชิญอยู่ แต่อย่างไรก็ตาม ถือเป็นปฏิกริยาที่ดีของเฟด แต่คงต้องรอดูผลสักระยะ และสิ่งที่ยังต้องติดตามคือผลความเสียหายของซับไพร์ม ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนกังวล
"คงประเมินยาก แต่การออกมากครั้งนี้ก็น่าจะช่วยในแง่ความรู้สึกของนักลงทุนดีชึ้น แต่ยอมรับว่าเป็นเรื่องที่พูดลำบากในอนาคต" นายรพี กล่าว
--อินโฟเควสท์ โดย จริญยา ดำสมาน/เสาวลักษณ์/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--