นายภาดล วรรณรัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่ง Sideway ถึง Sideway Down เนื่องจากสัปดาห์หน้าตลาดบ้านเราจะมีวันหยุดคาบเกี่ยวเนื่องในวันมาฆบูชา ดังนั้นวันนี้หุ้นขนาดกลาง และเล็กจะปรับตัวได้ดีกว่าตลาดฯ ขณะที่หุ้นบิ๊กแคปยังต้องรอดูการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ในวันนี้ ซึ่งผลที่ได้ต้องรอดูว่าจะมีการเลื่อนกำหนดเส้นตายในการบรรลุข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนออกไปหรือไม่ ซึ่งกำหนดเส้นตายไว้ในวันที่ 1 มี.ค. และจะมีผลบังคับใช้นโยบายภาษีฯในวันที่ 2 มี.ค.
ขณะที่หุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์อาจจะมีสีสันขึ้นมาได้บ้าง จากการเข้ามาเล่นเก็งกำไรในประเด็นการจ่ายปันผล ซึ่งหุ้น TISCO และ KKP จะให้ปันผลที่สูง 5-6%
สำหรับสัปดาห์หน้าให้ติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) และติดตามการประกาศตัวเลข GDP ของไทย และตัวเลขการนำเข้า-ส่งออกของไทยด้วย
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ซึมตัวลง พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,645-1,660 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (14 ก.พ.62) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,439.39 จุด ลดลง 103.88 จุด (-0.41%) ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,745.73 จุด ลดลง 7.30 จุด (-0.27%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,426.95 จุด เพิ่มขึ้น 6.57 จุด (+0.09%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 88.20 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 6.91 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 190.61 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 22.17 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 14.91 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 4.71 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 3.23 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ลดลง 26.08 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (14 ก.พ.62) 1,652.64 จุด ลดลง 3.09 จุด (-0.19%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,446.16 ล้านบาท เมื่อวันที่ 14 ก.พ.62
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มี.ค. ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (14 ก.พ.62) ปิดที่ 54.41 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 51 เซนต์ หรือ 1%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (14 ก.พ.62) ที่ 2.14 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 31.31 แข็งค่าตามทิศทางภูมิภาคจากแรงขายดอลล์ หลังผิดหวังตัวเลขศก.สหรัฐฯ
- "สมคิด" ถก "แบงก์ชาติ" รับมือบาทแข็ง หวั่นผลกระทบเป็นลูกโซ่ถึงภาคเกษตร ด้าน "วิรไท" ย้ำติดตาม สถานการณ์ใกล้ชิด ยันไม่พบแรงเก็งกำไร ระบุเงินบาทที่แข็งค่า เกิดจากปัจจัยต่างประเทศกดดัน ลั่นขึ้นดอกเบี้ยไม่เกี่ยวบาทแข็ง เหตุยอดเงินทุนเคลื่อนย้ายยังเป็นการไหลออกสุทธิ
- กสทช.ชี้ค่ายมือถือลงทุน3จี และ 4จี ยังไม่ถึงจุดคุ้มทุน หากไม่ช่วยเหลือ อาจไม่มีเงินประมูล 5จี ทำให้ไทยล้าหลัง ประเทศอื่นกระทบต่อการสร้างประเทศเพื่อรองรับเศรษฐกิจดิจิทัล ขณะที่ "วิษณุ" สงวนท่าที ยังไม่งัด ม.44 อุ้ม เผยเอกชนขอหลายอย่าง
- "ศาลรัฐธรรมนูญ" มีมติเอกฉันท์รับคำร้อง กกต.ยุบ "ไทยรักษาชาติ" ให้เวลาพรรคชี้แจง 7 วัน ก่อนนัดพิจารณาอีกครั้ง 27 ก.พ. พร้อมแจงยังไม่ใช่วันตัดสิน รอสรุปก่อนองค์คณะถึงลงมติอีกครั้ง ไม่ห้ามหาเสียง จนท.ส่งสำเนาคำร้องยุบพรรคถึง ทษช.ทันที ทีม กม.ขอเวลา 3 วัน ก่อนเสนอคำชี้แจงต่อฝ่ายบริหารพรรคฯ 18 ก.พ. "จาตุรนต์-ณัฐวุฒิ" แถลงยุติปราศรัยใหญ่-หาเสียงกับคนหมู่มาก ป้องกันปัญหาแทรกซ้อน
- "พาณิชย์" ยันผลทบทวนชั้นที่สุดไม่ต่ออายุใช้มาตรการเซฟการ์ดแผ่นเหล็ดรีดร้อนเจืออื่นๆ แม้ 7 สมาคมเหล็กยื่นหนังสือร้อง "บิ๊กตู่" เหตุไม่พบความเสียหายและหากขืนใช้ต่อเสี่ยงถูกประเทศอื่นตอบโต้
*หุ้นเด่นวันนี้
- GFPT (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 16.6 บาท ราคาไก่ในประเทศยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่องส่งผลบวกต่อ Sentiment การลงทุนของหุ้น GFPT ล่าสุดราคาขายไก่ในประเทศเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 36-37 บาทต่อ ก.ก.เพิ่มขึ้น 16% จากราคาขายในช่วงต้นปีที่ 32 บาทต่อ ก.ก.
- AP (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 9 บาท คาดกำไรปกติ Q4/61 ที่ 930 ลบ. (+1.5% Q-Q, -31% Y-Y) ถูกกดดันด้วยอัตรากำไรขั้นต้นที่ปรับลดจากการโอนโครงการที่มีมาร์จิ้นต่ำอย่าง Vittorio ขณะที่ยอดโอนคาดโตทั้ง Q-Q และ Y-Y แตะ 8.2 พันลบ. หนุนจากความสำเร็จของการขายแนวราบที่ไปได้ดี บวกกับรับรู้ Backlog คอนโด Vittorio ได้มากกว่าแผน หนุนให้ประมาณการกำไรปกติปี 2561 ที่ 3.5 พันลบ. (+14% Y-Y) มี Upside ราว 9% ส่วนภาพปี 2562 บริษัทตั้งเป้ายอดขายชะลอ 6% Y-Y เป็น 3.9 หมื่นลบ. ทั้งนี้ ราคาปัจจุบันที่ซื้อขายบน PE2562 ที่ 6 เท่า เทียบกับกลุ่มที่ 8.2 เท่า คาดปันผลสูง 6%
- ORI (เอเอสแอล) "ซื้อ"เป้า 9.30 บาท ด้วย 4 เหตุผล ก่อนประกาศงบ Q4/61 1) คาดกำไรปกติ Q4/61 ขยายตัวดีและโตต่อเนื่องตลอดปี 2562 หมดปัญหาเรื่อง GPM ต่ำจากโครงการคอนโด hi-end 2) เน้นกลยุทธ์กระจายพอร์ทมากขึ้น เน้น real demand และกลุ่มแนวราบที่มากขึ้น แต่ตั้งเป้ายอดขายปี 2562 เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปีก่อน 3) มี backlog ที่แข็งแกร่ง รองรับรายได้ปีนี้ไปแล้ว 70% ซึง่ไม่ได้รับผลกระทบจากเกณฑ์ LTV ใหม่ของ ธปท. และ 4) ราคาหุ้นมีความน่าสนใจโดยซื้อขายในปัจจุบันบน PER62 ค่อนข้างต่ำที่ 5.45x และ div. yield สูงถึง 7.3%