(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นออสเตรเลีย: S&P/ASX 200 ปิดบวก 225.5 จุดหลังดาวโจนส์ปิดลบ

          ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดในแดนบวกได้เป็นครั้งแรกในรอบ 13 วันในวันนี้ (23 ม.ค.) หลังจากที่ดิ่งลงหนักสุดในรอบกว่า 18 ปีเมื่อวานนี้
          หุ้นต่างๆปรับตัวขึ้นมากถึง 35.9 จุด หรือ 6.8% หลังจากที่ร่วงลงมากกว่า 7% เมื่อวานนี้ เนื่องจากความหวั่นวิตกเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐได้จุดชนวนให้เกิดแรงเทขายในตลาดหุ้นยุโรปและตลาดหุ้นในเอเชียในเวลาต่อมา
          นักลงทุนได้รับปัจจัยหนุนจากดัชนีดาวโจนส์ที่เคลื่อนไหวดีขึ้นในช่วงเช้า โดยดัชนีดาวโจนส์ร่วงลง 465 จุดในช่วงแรกของการซื้อขาย ก่อนที่จะฟื้นตัวขึ้นมาปิดลบเพียง 128.11 จุด หรือ 1.06% ปิดที่ 11,971.19 จุด หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ลดดอกเบี้ยลง 0.75% เพื่อที่จะพยุงเศรษฐกิจสหรัฐไม่ให้เข้าสู่ภาวะถดถอย
          สำนักข่าวซินหัวไฟแนนซ์รายงานว่า ดัชนี S&P/ASX 200 ปิดบวก 225.5 จุด หรือ 4.4% ปิดที่ 5,412.3 จุด หลังจากปรับตัวในช่วง 5,230.7-5,540.7 จุด
          ปริมาณการซื้อขาย 2.41 พันล้านหุ้น มูลค่า 9.36 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย
          โจ ยูเซฟ ที่ปรึกษาจากแมคควอรี เวลท์ เมเนจเมนท์ กล่าวว่า ตลาดมีปฏิกริยากับปัจจัยที่ว่า ตลาดหุ้นสหรัฐไม่ได้มีการเทขายมากเหมือนกับที่เกิดขึ้นกับตลาดหุ้นออสเตรเลียเมื่อวานนี้ เมื่อพูดในลักษณะรวมๆแล้ว การลดดอกเบี้ยลงมากของสหรัฐมีส่วนช่วยให้ตลาดหุ้นในเอเชียคึกคักขึ้น
          หุ้นออสเตรเลียร่วงลงถึง 21% นับตั้งแต่ที่ดีดตัวขึ้นเป็นประวัติการณ์เมื่อวันที่ 1 พ.ย. ซึ่งในทางเทคนิคถือว่าเป็นภาวะตลาดซบเซาเพราะดัชนีตกลงมากกว่า 20%
          ยูเซฟกล่าวว่า ตลาดหุ้นคงจะผันผวนต่อไป เนื่องจากยังมีความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐและความเคลื่อนไหวของเฮดจ์ฟันด์
          หุ้นกลุ่มแบงค์และเหมืองชั้นนำซึ่งก่อนหน้านี้ได้รับผลกระทบจากแรงเทขายที่มาจากการทำ margin call ได้เป็นแกนนำในการปรับตัวขึ้นวันนี้
          หุ้นออสเตรเลีย แอนด์ นิวซีแลนด์ แบงกิ้ง กรุ๊ป พุ่ง 3.6% หุ้นเวสท์แพค ดีดขึ้น 2.9% และหุ้นคอมมอนเวลท์ แบงค์ ปรับตัวขึ้น 2.1% ส่วนหุ้นเนชั่นแนล ออสเตรเลีย แบงค์ สวนกระแส  ปรับตัวลง 1.5%
          หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ดีดขึ้น 9.3% หลังจากที่ได้มีการรายงานตัวเลขการผลิตในช่วงครึ่งปีแรกที่แข็งแกร่งในกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์หลักๆ ส่งผลให้มีการคาดการณ์ตามมาว่า บีเอชพีจะรายงานผลกำไรสุทธิในช่วงครึ่งปีแรกประมาณ 6.6 พันล้านดอลลาร์ สูงขึ้นจากสถิติครึ่งปีแรกก่อนหน้านี้ที่ 6.168 พันล้านดอลลาร์