TKN คาดกำไรปีนี้โตดีกว่าปีก่อน วางเป้ายอดขายโต 10.15% เจรจาพันธมิตรร่วมทุนบุกตลาดสหรัฐ-จีน

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday February 21, 2019 17:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง (TKN) กล่าวว่า บริษัทฯ คาดกำไรสุทธิปีนี้น่าจะดีกว่าระดับ 459.18 ล้านบาทในปีก่อน เนื่องด้วยราคาวัตถุดิบปรับตัวลดลงต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะปรับตัวลง 15% เป็นอย่างต่ำ จากปีก่อนที่ปรับตัวลดลง 10% ซึ่งในช่วงที่ราคาวัตถุดิบปรับตัวลงบริษัทก็เข้าซื้อวัตถุดิบอย่างต่อเนื่อง ทำให้ปัจจุบันมีสาหร่ายรองรับได้ถึงกลางปี 63 แต่อย่างไรก็ตามมองว่าหากราคาวัตถุดิบดังกล่าวปรับตัวลงไปอีก บริษัทฯ ก็จะเข้าซื้อเพิ่มเติมอีกเพื่อให้ครอบคลุมการใช้วัตถุดิบทั้งปี 63 ซึ่งจะส่งผลดีต่ออัตรากำไรขั้นต้นและอัตรากำไรสุทธิปรับตัวดีขึ้น

ขณะที่ค่าเงินบาทที่ปรับตัวแข็งค่าขึ้น ทำให้ส่งผลดีต่อการส่งออกสินค้า ขณะเดียวกันในปีนี้จะเห็นยอดขายเพิ่มขึ้นของตัวแทนจำหน่ายรายใหม่ ที่เข้ามาแทนตัวแทนจำหน่ายรายเดิมในมณฑลเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ซึ่งตัวแทนจำหน่ายใหม่นี้มีความเชี่ยวชาญในการทำตลาดออนไลน์ ที่ถือเป็นหัวใจหลักของการทำยอดขายในประเทศจีน นอกจากนี้บริษัทฯ ก็อยู่ระหว่างเจรจากับตัวแทนจำหน่ายเพิ่มเติมอีกในมณฑลเซี่ยงไฮ้ เพื่อเข้ามาเสริมความแข็งแกร่งการทำยอดขายในตลาดต่างประเทศ

"ปีนี้เราจะมุ่งเน้นการทำให้กำไรเติบโตดีขึ้น แม้ว่าจะยังได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนตัวแทนจำหน่าย ปัญหาเรื่องสินค้าปลอมแปลง และค่าปรับการกำจัดขยะในปีนี้อยู่ แต่เราก็ได้แต่งตั้งทนายเข้าไปฟ้องร้องคู่กรณีแล้ว ซึ่งอาจจะใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง ขณะเดียวกันเราก็ได้ตัวแทนจำหน่ายใหม่เข้ามา คาดว่าจะเริ่มเห็นยอดขายเพิ่มขึ้นตั้งแต่ต้นปีนี้เป็นต้นไป"

พร้อมกันนี้บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายปีนี้จะเติบโต 10-15% จากปีก่อน โดยจะมาจากในประเทศ 40% และต่างประเทศ 60% ซึ่งในประเทศบริษัทฯ ก็มีแผนขยายสาขาเถ้าแก่น้อยแลนด์ และเถ้าแก่น้อยแลนด์พลัสอย่างต่อเนื่อง จากปี 61 มีสาขาอยู่ที่ 20 สาขา และ 2 สาขา ตามลำดับ รวมถึงยังมองโอกาสเพิ่มสาขาร้าน Hinoya Curry หรือร้านอาหารข้าวแกงกะหรี่ ที่ได้เปิดตัวไปเมื่อสัปดาห์ก่อนจำนวน 1 แห่ง ก็ได้รับการตอบรับที่ดี ประกอบกับก็เตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่ โดยจะมุ่งเน้นไปยังผลิตภัณฑ์ที่มีมาร์จิ้นสูง เช่น สาหร่ายอบ เป็นต้น ซึ่งได้วางงบการตลาดไว้ที่ 5-6% ของยอดขายรวม

ส่วนตลาดต่างประเทศในปีนี้นอกเหนือจากมุ่งเน้นไปยังประเทศจีน หลังได้เปลี่ยนตัวแทนจำหน่ายรายใหม่ บริษัทฯ จะมุ่งเน้นไปยังประเทศสหรัฐฯ หลังจากเข้าซื้อกิจการประเภทขนมในสหรัฐฯ โดยใช้ชื่อแบรนด์ NORA ที่ผ่านมาได้เริ่มวางจำหน่ายไปแล้วในช่วงปลายปี 61 ในรัฐแคลิฟอร์เนีย, นครนิวยอร์ก และรัฐฮาวาย ก็ได้รับผลตอบรับที่ดี โดยปีนี้บริษัทฯ มีแผนวางจำหน่ายสินค้าในห้าง Costco ที่ปัจจุบันมีสาขารวมกันทั้งสิ้น 1,340 สาขา ซึ่งขณะนี้ก็อยู่ระหว่างการตรวจสอบมาตรฐานโรงงานที่สหรัฐฯ รอบที่ 2 คาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ภายในปีนี้ โดยในเบื้องต้นหากผ่านมาตรฐานและสามารถนำสินค้าเข้าไปวางจำหน่ายได้ บริษัทฯ ก็ตั้งเป้าจะมียอดขาย NORA เพิ่มเป็น 10 ล้านเหรียญฯ จากยอดขายเดิมที่ยังไม่รวมการวางจำหน่ายในห้าง Costco ตั้งเป้าไว้ที่ 5 ล้านเหรียญฯ

นายอิทธิพัทธ์ กล่าวว่า บริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรทั้งในประเทศสหรัฐฯ และจีน เพื่อเข้าร่วมลงทุน (JV) โดยในสหรัฐฯ จะเข้าไปร่วมลงทุนกับแบรนด์ท้องถิ่น และสร้างแบรนด์ใหม่ คาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ภายในปีนี้ ส่วนประเทศจีน จะร่วมลงทุนกับผู้ดำเนินธุรกิจ คอนซูเมอร์โปรดักส์ ในการขยายช่องทางการขายสินค้าที่ไม่ใช่สาหร่าย ผ่านแบรนด์เถ้าแก่น้อย เช่น การนำเอาสินค้าในประเทศไทยไปจำหน่ายในประเทศจีน เป็นต้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ