ภาวะตลาดหุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้ามีโอกาสรีบาวน์ แต่ยังไม่ใช่ขาขึ้น กังวลแรงขายต่างชาติ

         นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเชีย พลัส กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้านี้โอกาสที่ตลาดรีบาวน์คงจะมีเพราะเมื่อวาน (23 ม.ค.) หุ้นไทยยังปรับขึ้นไม่มากทั้งที่ตลาดหุ้นดาวโจนส์ก็ไม่ได้ลบมากอย่างที่คิดและภูมิภาคก็ฟื้นตัวแต่หุ้นไทยค่อนข้างจะเปิดสูงและลงต่ำ วันนี้จึงเชื่อว่าโอกาสรีบาวน์มีแต่รีบาวน์แล้วไม่ไช่ว่าจะเปลี่ยนเทรนเป็นขาขึ้นต้องดูว่าแรงกดดันที่อาจจะมาต่อเนื่องจากแรงขายของต่างชาติคงยังไม่หมด เพราะฉะนั้นดัชนีที่ปรับขึ้นไปก็ต้องใช้ความระมัดระวังด้วยเช่นกัน
          "วันนี้รีบาวน์แต่ไม่ได้มองภาพอะไรที่ดีมากนักในช่วงนี้ ตลาดหุ้นต่างประเทศมีดาวโจนส์ที่บวก แต่ตลาดในภูมิภาคตรงนี้เท่าที่เปิดมายังไม่บวกมากนัก เช่น นิกเคอิบวกประมาณ 1.4% จีนตอนนี้ปรับลงคงไม่ได้ช่วยหนุนอะไรมาก และคงต้องรอข่าวดีในเรื่องของดอกเบี้ยปลายเดือนนี้อีกรอบหนึ่ง" นายเทิดศักดิ์ กล่าว
          กรอบการเคลื่อนไหวแนวรับ 730 จุด แนวต้าน 755 จุด 
          ทั้งนี้ วันนี้จะมีหุ้นน้องใหม่ บมจ.โลหะกิจ เม็ททอล (LHK) เข้าเทรดวันแรก ที่ราคาไอพีโอ 2.76 บาท โดยจัดอยู่ในกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม หมวดวัสดุอุตสาหกรรมและเครื่องจักร
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :  
          - ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(23 ม.ค.) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 12,270.17 จุด เพิ่มขึ้น 298.98 จุด(+2.50%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,338.60 จุด เพิ่มขึ้น 28.10 จุด(+2.14%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 2,316.41 จุด เพิ่มขึ้น 24.14 จุด (+1.05%)  
          - นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,915.31 ล้านบาทเมื่อวานนี้
          - ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน มี.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการเมื่อวานนี้ที่ 86.99 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 2.22 ดอลลาร์ 
          - นักวิชาการ-นักวิเคราะห์ชี้เฟดลดดอกเบี้ย 0.75% เป็นผลแง่จิตวิทยาในตลาดเงินแค่บรรเทาอาการภาวะเศรษฐกิจถดถอย โพลล์รอยเตอร์ระบุ ปลายเดือน ม.ค.เฟดจะลดดอกเบี้ยอีก 0.50% 'ซิตี้กรุ๊ป' หั่นจีดีพีสหรัฐเหลือ 1.2% ด้าน ธปท.เตรียมนำปัจจัยเศรษฐกิจสหรัฐประเมินผลกระทบใหม่ ก.พ.นี้จี้รัฐบาลเร่งนโยบายกระตุ้นอุปสงค์ในประเทศให้กลับคืนมา เพื่อลดผลกระทบจากการชะลอตัวของภาคส่งออก
          - ปูนใหญ่ปรับกลยุทธ์หนีเศรษฐกิจโลกซบต้นทุนพลังงานทุน ประกาศลดส่งออกซีเมนต์โดยเฉพาะตลาดสหรัฐ หันไปหาตลาดยุโรปและเอเชียแทน หวังรัฐบาลใหม่เร่งโครงการเมกะโปรเจค กระตุ้นกำลังซื้อในประเทศ เชื่อจีดีพีปีนี้ 4.5-5% ตั้งเป้ายอดขายรวมโตจากปีก่อน 10% เหตุธุรกิจกระดาษโตมากสุดหลังเพิ่มกำลังผลิต
          - ส.อ.ท.เตือนผู้ประกอบการรับมือพิษซับไพร์ม แนะพาณิชย์ช่วยหาตลาดใหม่ชดเชยตลาดสหรัฐหวั่นออเดอร์ไตรมาส 2 หด ด้านผู้ส่งออกดิ้นรักษาตลาดพร้อมหาแหล่งอื่นทดแทนทั้งอาเซียน จีน อินเดีย และยุโรป 'เกริกไกร' สั่งลดสัดส่วนตลาดสหรัฐจาก 19% เหลือ 12%
          - 'บรรหาร' เผยพรรคพปช.ยังไม่ให้คำตอบว่าชท.ได้กี่เก้าอี้ กระทรวงใดบ้าง ระบุต้องเป็นสัดส่วน ส.ส. 5-6 คนต่อ 1 ตำแหน่ง และยังมีเวลาหารือถึงตรุษจีน ขณะที่ ส.ส.พปช.แห่ขอตำแหน่งการเมือง 'ทักษิณ' ถึงฮ่องกง 'อภิสิทธิ์' จี้รัฐบาลประกาศทิศทางนโยบายแก้เศรษฐกิจให้ชัด