นายธนวัฒน์ ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการ บมจ. ซีเค พาวเวอร์ (CKP) เปิดเผยว่า ผลประกอบการปี 61 บริษัทสามารถทุบสถิติสร้างนิวไฮทั้งรายได้และกำไร สะท้อนถึงประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจที่แข็งแกร่งและเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยรายได้เพิ่มขึ้นกว่า 30% จากปีก่อนเป็น 9,115 ล้านบาท จากการเพิ่มขึ้นของรายได้การขายไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าน้ำงึม 2 เนื่องจากปีที่ผ่านมามีปริมาณน้ำฝนมากที่สุดในรอบ 70 ปี รวมทั้งรายได้จากการขายไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าบางปะอิน โคเจนเนอเรชั่น โครงการ 2 เต็มปี ยิ่งไปกว่านั้น โรงไฟฟ้าน้ำงึม 2 ยังได้มีการออกหุ้นกู้เพื่อลดต้นทุนทางการเงิน ส่งผลให้กำไรสุทธิทั้งปีเพิ่มขึ้นเป็น 599 ล้านบาท เติบโตที่สูงขึ้นถึง 277% จากปีก่อน
ในปีที่ผ่านม บริษัทได้เข้าทำการลงทุนเพิ่มใน บริษัท ไซยะบุรี พาวเวอร์ จำกัด (XPCL) ซึ่งเป็นผู้รับสัมปทานโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรี อีก 7.5% ของทุนจดทะเบียน โดยมีมูลค่าลงทุนเพื่อซื้อหุ้นดังกล่าวรวมที่ 2,065 ล้านบาท ทำให้สัดส่วนการถือหุ้นใน XPCL อยู่ที่ 37.5% ช่วยเสริมให้ผลประกอบการในอนาคตมีความแข็งแกร่งมากขึ้น ณ สิ้นปี 61 การก่อสร้างโครงการคืบหน้าไปแล้ว 97% คาดว่าจะสามารถเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ตามแผนได้ภายในไตรมาส 4/62
นอกจากนี้บริษัทฯ ยังได้มีการลงทุนในโครงการไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคาและบนพื้นดิน เพื่อผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าให้กับผู้ประกอบการภาคเอกชน จำนวน 6 โครงการ กำลังการผลิตติดตั้งรวม 6.75 เมกะวัตต์ เริ่มทยอยก่อสร้างตั้งแต่ไตรมาส 3/61 โดยเดือน ก.พ.62 ได้มีการจ่ายไฟฟ้าให้กับผู้ประกอบการแล้ว 1 โครงการ ที่ขนาดกำลังการผลิต 0.9 เมกะวัตต์ และอีก 5 โครงการอยู่ระหว่างก่อสร้าง คาดว่าจะสามารถเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ครบทั้งหมดในปี 62
"ผลประกอบการของปีที่ผ่านมาถือว่าเป็นที่น่าพอใจ บริษัทฯไม่เคยหยุดนิ่งที่จะพัฒนาธุรกิจของบริษัทฯ เพื่อก้าวเป็นผู้นำด้านพลังงานสะอาดของประเทศและในภูมิภาคอาเซียน และยังคงกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน (Sustainable) ควบคู่ไปกับการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อม (Social and Environmental Responsibility) รวมทั้งยังคงมองหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศเพื่อสนับสนุนเป้าหมายกำลังการผลิตติดตั้งที่ 5,000 เมกะวัตต์ภายในปี 68" นายธนวัฒน์ กล่าว
อนึ่ง CKP ดำเนินธุรกิจในลักษณะ Holding Company และลงทุนในบริษัทที่ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานประเภทต่างๆ 3 ประเภท จำนวน 13 โครงการ รวมขนาดกำลังผลิตที่ 2,167 เมกะวัตต์ ประกอบด้วยโครงการไฟฟ้าพลังน้ำ 2 โครงการ ได้แก่ บริษัท โรงไฟฟ้าน้ำงึม 2 จำกัด ถือหุ้น 42% (ถือผ่าน บริษัท เซาท์อีสท์ เอเชีย เอนเนอร์จี จำกัด ) ขนาดกำลังการผลิต 615 เมกะวัตต์ และ บริษัท ไซยะบุรี พาวเวอร์ จำกัด ถือหุ้น 37.5% ขนาดกำลังผลิต 1,285 เมกะวัตต์
โครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม (Cogeneration) จำนวน 2 โครงการภายใต้ บริษัท บางปะอิน โคเจนเนอเรชั่น จำกัด (BIC) ถือหุ้นอยู่ 65% ขนาดกำลังผลิต 238 เมกะวัตต์ และ โครงการไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ 9 โครงการ ภายใต้ บริษัท บางเขนชัย จำกัด (BKC) ถือหุ้น 100% จำนวน 7 โครงการ ขนาดกำลังผลิต 15 เมกะวัตต์ บริษัท เชียงรายโซล่าร์ จำกัด (CRS) ถือหุ้น 30% ขนาดกำลังผลิต 8 เมกะวัตต์ และ บริษัท นครราชสีมา โซล่าร์ จำกัด (NRS) ถือหุ้น 30% ขนาดกำลังผลิต 6 เมกะวัตต์