นางอมร พุฒิพิริยะ รองกรรมการผู้จัดการ บมจ.ธนพิริยะ (TNP) เปิดเผยถึงแนวโน้มผลการดำเนินงานปี 62 ว่าบริษัทตั้งเป้ายอดขายเติบโต 10-15% ต่อเนื่องจากปี 61 ที่ 1,769 ล้านบาท โดยยังคงเน้นยอดขายจากธุรกิจค้าปลีกมากกว่าค้าส่ง เนื่องจากอัตรากำไร (มาร์จิ้น) กลุ่มธุรกิจค้าปลีกอยู่ที่ประมาณ 12-14% ซึ่งอยู่ในระดับที่สูงกว่าธุรกิจค้าส่งที่มีมาร์จิ้นอยู่ในระดับต่ำกว่า 10%
กลยุทธ์การขยายสาขาของบริษัทในปีนี้ตั้งเป้าขยายสาขาเพิ่มอีก 5 สาขาทั้งในจังหวัดเชียงราย และจังหวัดใกล้เคียง โดยเมื่อสิ้นปี 61 มีสาขารวมกันทั้งสิ้น 24 สาขา แบ่งเป็นสาขาในเชียงราย 22 สาขา และพะเยา 2 สาขา ซึ่งแผนขยายสาขาจะเน้นในจังหวัดเชียงรายเป็นหลัก ควบคู่กับการมองหาทำเลในจังหวัดใกล้เคียงที่มีศักยภาพ อีกทั้งการเพิ่มสินค้าใหม่เข้ามาจำหน่าย อาทิ อาหารแช่แข็ง เพื่อความครบวงจร ตอบสนองความต้องการของลูกค้า และเพื่อสร้างโอกาสการเติบโตของธุรกิจ
"เรามองว่า ในปีนี้จะเป็นอีกปีที่ดีของธุรกิจ จากภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศมีทิศทางที่ดีขึ้น สัญญาณบวกจากการเลือกตั้ง การลงทุนจากภาครัฐบาลและภาคเอกชน การออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในหลายด้าน รวมถึง การท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นเมืองรอง มีจำนวนนักท่องเที่ยวให้ความสนใจเพิ่มขึ้น จะส่งผลดีต่อบริษัทฯ ให้มีโอกาสขยายช่องทางการเติบโตได้อีก"นาง อมร กล่าว
ด้านนายธวัชชัย พุฒิพิริยะ กรรมการผู้จัดการ TNP เปิดเผยถึงผลประกอบการปี 61 บริษัทมีรายได้จากการขายและบริการ 1,769.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 171.47 ล้านบาท คิดเป็น 10.73% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าที่ 1,597.71 ล้านบาท กำไรขั้นต้นอยู่ที่ 244.85 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 15.08% มีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 13.84% กำไรสุทธิอยู่ที่ 65.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.28% จากปีก่อนอยู่ที่ 61.29 ล้านบาท มีอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 3.66% เป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง
"ผลประกอบการปี 61 TNP สามารถเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ จากการเปิดสาขาได้ตามแผนและกำลังซื้อที่เข้ามา แม้ในสภาวะการแข่งขันที่รุนแรงของกลุ่มทุนค้าปลีก-ค้าส่งขนาดใหญ่ที่ขยายเครือข่าย แต่ร้านธนพิริยะ ยังคงได้รับการตอบรับจากผู้บริโภค และมีการเติบโตที่ดี จากการเข้าถึงและเข้าใจคนในท้องถิ่น ทำเลสาขาอยู่ใกล้บ้าน จำหน่ายสินค้าราคาคุ้มค่า เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างทั่วถึง ขณะที่ ทิศทางของเศรษฐกิจภายในประเทศปีนี้ มองว่าจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง ส่งผลให้กำลังซื้อของผู้บริโภคเพิ่มขึ้น กอรปกับเรามีเครื่องรูดบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่เปิดให้บริการแล้วกว่า 18 สาขา ซึ่งได้รับการตอบรับจากประชาชนเข้ามาใช้บริการเป็นอย่างดี" นายธวัชชัย กล่าว