นายวีระพล ไชยธีรัตต์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ชัยวัฒนา แทนเนอรี่ กรุ๊ป (CWT) เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่ารายได้ในปี 62 จะเติบโตมากกว่า 50% มาที่ 3 พันล้านบาท หลังจากที่รับรู้รายได้ของ บริษัท สกุลฎ์ซี อินโนเวชั่น จำกัด (SAKUN C) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่คาดว่าจะทำรายได้ไม่ต่ำกว่า 1 พันล้านบาท
ส่วนอีก 2 พันล้านบาทจะมาจากธุรกิจเดิม แบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจชิ้นส่วนหนังสำหรับเบาะรถยนต์ราว 1,500-1,600 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้บริษัทมีคำสั่งซื้อล่วงหน้าอยู่ในมือแล้วราว 1,500 ล้านบาท และอยู่ระหว่างเจรจากับลูกค้ารายใหม่จากประเทศจีนเพิ่มเติม แต่ยังต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง
ขณะที่ธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ที่ดำเนินการแล้ว ประกอบด้วยโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลโคกเจริญ ที่ จ.สระแก้ว ซึ่งมีกำลังการผลิต 9.6 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์ม กำลังการผลิต 5 เมกะวัตต์ โดยในปีนี้บริษัทได้เตรียมแผนพัฒนาโรงไฟฟ้าขยะ 3 แห่ง กำลังการผลิตติดตั้งแห่งละ 9 เมกะวัตต์ ซึ่งหากภาครัฐกลับมาเปิดรับซื้อไฟฟ้าเชิงพาณิชย์อีกครั้ง บริษัทก็พร้อมยื่นข้อเสนอเข้าร่วมทันที
นายวีระพล กล่าวอีกว่า บริษัทยังคาดว่าการรับรู้ธุรกิจของ SAKUN C จะทำให้อัตรากำไรสุทธิในปีนี้ปรับตัวดีขึ้นจากปีก่อน เนื่องจากธุรกิจของ SAKUN C มีอัตรากำไรสุทธิไม่ต่ำกว่า 10% ซึ่งสูงกว่าธุรกิจเดิมของ CWT ที่มีอัตรากำไรสุทธิราว 5-6%
สำหรับทิศทางธุรกิจผู้ผลิตยานพาหนะสมัยใหม่ Light Weight Aluminum Body ของ SAKUN C ในปีนี้ นายวีระพล กล่าวในฐานะกรรมการบริหารของ SAKUN C ว่า บริษัทวางแป้าหมายยอดจำหน่ายรถบัสราว 800 ล้านบาท ปัจจุบันมีงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) แล้ว 400 ล้านบาท หรือคิดเป็นคำสั่งซื้อรถบัสราว 200 คัน ขณะที่รายได้จากการจำหน่ายเรือวางเป้าหมายไว้ราว 200 ล้านบาท
ล่าสุด SAKUN C ได้รับงานปรับปรุงรสบัสนำเที่ยว"ไจแอ้นท์ ซิตี้ ทัวร์" ของบริษัท อะเมซิ่ง บัสทัวร์ จำกัด ซึ่งเป็นรถบัสให้บริการแบบ Hop on Hop off แห่งแรกในกรุงเทพฯ โดยจะปรับปรุงรถ (Retrofit) ให้เป็นรถบัสไฟฟ้า EV Bus จำนวน 12 คัน ด้วยงบ ลงทุนกว่า 84 ล้านบาท เพื่อตอบสนองตามนโยบาย Bangkok Green City คาดว่าจะสามารถเริ่มวิ่งให้บริการได้ในไตรมาส 4/62
การปรับปรุงรสบัสดังกล่าวให้เป็นรถบัสไฟฟ้ามีค่าใช้จ่ายคันละ 7 ล้านบาท ซึ่งจะทำการปรับปรุงในส่วนต่าง ๆ อาทิ การเลือกแบตเตอรี่, มอเตอร์, ชุดควบคุม, การขึ้นรูป ผลิตชิ้นส่วนต้นแบบและประกอบเข้ากับโครงรถไฟฟ้า และติดตั้งอุปกรณ์อื่น ๆ เป็นต้น เพื่อให้เป็นรถบัสสมัยใหม่ ปลอดเขม่าควัน ลดฝุ่นมลพิษที่สังคมเมืองต้องการให้ร่วมรณรงค์ในการรักษาสิ่งแวดล้อมจากการใช้ยานพาหนะใหญ่ในเมืองหลวง โดยจะนำไปให้บริการนำเที่ยวไปยังสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมหลายแห่ง เช่น วัดพระแก้ว เสาชิงช้า ภูเขาทอง เยาวราช ฯลฯ
นายวีระพล กล่าวอีกว่า CWT คาดหวังที่จะผลักดันให้ SAKUN C เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปี 65 โดยจะใช้งบการเงินของปี 64 ในการยื่นขออนุญาต ซึ่งในช่วงปี 64 บริษัทคาดว่าจะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท