นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.พีทีจี เอ็นเนอยี (PTG) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าปี 62 ปริมาณการจำหน่ายน้ำมันและรายได้เติบโต 16-20% และคาดว่ากำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อม (EBITDA) จะเติบโต 40-50% จากปี 61
ขณะที่บริษัทวางแผนขยายสถานีบริการใหม่ให้เพิ่มขึ้นเป็น 2,000 สาขา จากปี 61 ที่มีสถานีบริการอยู่ที่ 1,884 สาขา โดยจะเน้นทำเลขยายสาขาที่สามารถรองรับการให้บริการ non-oil อื่นๆ แก่ลูกค้าได้ด้วย นอกจากนี้ บริษัทคาดว่าค่าการตลาดได้กลับเข้าสู่ภาวะปกติ จากราคาน้ำมันดิบที่ยังอยู่ในระดับต่ำที่ 60-65 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลจากการคาดการณ์ของ EIA และโรงกลั่นน้ำมันในประเทศ
นายพิทักษ์ กล่าวว่า การขยายสาขาบริษัทฯ จะเน้นพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล เนื่องจากมีความต้องการเติมน้ำมันค่อนข้างสูง โดยพื้นที่ในกรุงเทพฯและปริมณฑลมีอัตราการบริโภคน้ำมันกว่า 32% ของทั้งประเทศ ซึ่งขณะนี้บริษัทสามารถขยายสาขาในกรุงเทพฯ และปริมณฑลได้มากกว่า 30 เขตแล้ว โดยบริษัทฯคาดว่าภายในปี 63 จะสามารถขยายได้ครบทั้ง 50 เขต
สำหรับในปี 62 บริษัทได้ตั้งงบลงทุนรวม 3,500 ล้านบาท แบ่งเป็น ลงทุนในธุรกิจน้ำมันและธุรกิจที่เกี่ยวข้องอยู่ที่ 2,500 ล้านบาท, ธุรกิจ non-oil อยู่ที่ 500 ล้านบาท และธุรกิจใหม่อยู่ที่ 500 ล้านบาท โดยบริษัทตั้งเป้ารักษาส่วนแบ่งทางการตลาดของน้ำมันผ่านสถานีบริการ หลังจากสามารถขยับขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ได้ในช่วงไตรมาส 4/61 ขณะที่ธุรกิจ non-oil ซึ่งนำโดยธุรกิจ LPG ซึ่งคาดว่าจะยังคงรักษายอดขายให้เติบโตได้ 55-60% จากปีที่แล้ว
ทั้งนี้ เป็นหนึ่งในแผนการขยายธุรกิจ Non-Oil โดยตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนกำไรสุทธิเป็น 20% จากปี 15% โดยมีแผนที่จะขยายเพิ่มอีกประมาณ 150-200 สาขา ไม่ว่าจะเป็นร้านสะดวกซื้อ Max Mart, ร้านกาแฟพันธุ์ไทย, ร้านคอฟฟี่ เวิลด์, ร้านข้าวแกงครัวบ้านจิตร,ร้านซ่อมบำรุงสำหรับรถบรรทุก Pro Truck สำหรับรถยนต์ Autobacs จากปัจจุบันที่รวมทั้งหมดมี 504 สาขา
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนในการสร้างเครือข่ายของธุรกิจกาแฟให้แข็งแกร่ง โดยในปีนี้เป็นปีแรกที่จะเริ่มขยายแฟรนไชส์ร้านกาแฟพันธุ์ไทย ภายหลังได้รับการติดต่อจากผู้ที่สนใจมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง ณ สิ้นปี 61 ร้านกาแฟพันธุ์ไทยอยู่ที่ 187 สาขา และร้าน Coffee World อยู่ที่ 82 สาขา
นายพิทักษ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเจรเพื่อเข้าร่วมลงทุน และซื้อกิจการ 2-3 ดีล ในธุรกิจคลังสินค้า โลจิสติก และธุรกิจจำหน่ายก๊าซ LPG สำหรับครัวเรือน โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปการเข้าซื้อกิจการภายในปีนี้อย่างน้อย 1 ดีล
ขณะเดียวกันบริษัทเตรียมลงทุนติดตั้งโซลาร์รูฟบนหลังคาสถานีบริการน้ำมัน ทั้งหมด 200 สาขาในปีนี้ ช่วงต้นไตรมาส 2/62 นี้จะมีการขยายครบ 50 สาขา กำลังการผลิตสาขาละ 50 กิโลวัตต์ ซึ่งคาดว่าจะสามารถลดต้นทุนค่าไฟฟ้าได้ราว 200,000 บาทต่อสาขาต่อปี