นายณัฎฐปัญญ์ ศิริวิริยะกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบมจ.เกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ชูการ์ คอร์ปอเรชั่น (KTIS) กล่าวว่า บริษัทคาดแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2 งวดปี 61/62 จะเติบโตดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นไปตามการเติบโตของธุรกิจผลิตและจำหน่ายพลังงานไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงชีวมวล, ธุรกิจผลิตและจำหน่ายเยื่อกระดาษชานอ้อย, ธุรกิจผลิตและจำหน่ายเอทานอล และธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทราย
ขณะที่มองภาพรวมทั้งปี 61/62 บริษัทคาดว่าปริมาณการขายน้ำตาลจะใกล้เคียงกับปีก่อนที่ 9 ล้านตัน หรือคิดเป็นความสามารถในการผลิตน้ำตาลได้ราว 10 ล้านกระสอบน้ำตาล เนื่องด้วยมองว่าราคาน้ำตาลยังอยู่ในช่วงทรงตัว หรือเคลื่อนไหวระหว่าง 12-15 เซนต์/ปอนด์ ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่ต่ำ ทำให้ชาวไร่ไม่กล้าลงทุนขยายพื้นที่ปลูกอ้อยเพิ่ม เนื่องจากราคาไม่จูงใจ
แต่อย่างไรก็ตาม มองว่าราคาน้ำตาลโลกในปีนี้น่าจะถึงจุดต่ำสุดแล้ว และเชื่อว่าจะเริ่มเห็นการปรับตัวขึ้นในช่วง เม.ย.-พ.ค.62 ซึ่งต้องรอดูอีกครั้งหนึ่งว่าจะส่งผลดีต่อการขยายพื้นที่ปลูกอ้อยมากน้อยเพียงใด
ขณะที่ธุรกิจผลิตและจำหน่ายพลังงานไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงชีวมวลในปีนี้ บริษัทไม่ได้มีการจ่ายไฟฟ้าเชิงพานิชย์เพิ่ม (COD) เนื่องจากสามารถ COD ไปครบทั้ง 3 แห่งแล้ว ซึ่งในไตรมาส 1 งวดปี 61/62 ก็มีการรับรู้รายได้จากการขายไฟฟ้าที่ 27 ล้านหน่วย อย่างไรก็ตามการจ่ายไฟฟ้าได้ครบตามแผนจะทำให้ต่อจากนี้บริษัทจะรับรู้รายได้จากการขายไฟฟ้าคงที่มากขึ้น โดยตั้งเป้ามีสัดส่วนรายได้จากการผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเป็น 20% จากปัจจุบันอยู่ที่ 16.7% ของรายได้รวม
ส่วนธุรกิจผลิตและจำหน่ายเยื่อกระดาษชานอ้อย ปีนี้ราคาขายเยื่อกระดาษชานอ้อยปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งน่าจะเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่จะเป็นตัวขับเคลื่อนรายได้ในปีนี้ ขณะเดียวกันธุรกิจผลิตและจำหน่ายเอทานอลปีนี้อยู่ในระดับทรงตัว