น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ประธานกรรมการบริหาร บมจ. เอสซี แอสเซท คอร์ปอเรชั่น(SC)เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทมีแผนปรับรูปแบบโครงการอสังหาริมทรัพย์ทั้งบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม เพื่อรุกตลาดระดับกลาง ขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น พร้อมศึกษาขยายโครงการออกสู่ต่างจังหวัดในปี 52 โดยเริ่มจากหัวเมืองใหญ่อย่างเชียงใหม่
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า บริษัทมีแผนขยายตลาดบ้านเดี่ยวระดับกลาง จากที่เคยเน้นตลาดระดับราคาบ้านเฉลี่ย 4-5 ล้านบาท/หลัง รวมถึงโครงการในรูปแบบทาวน์โฮมก็จะลดระดับราคาขายลงเหลือ 1.6-1.7 ล้านบาท จากเดิม 2 ล้านบาท เพื่อเป็นการขยายลูกค้าระดับกลางมากชึ้น เนื่องจากเห็นว่าปัจจุบันลูกค้าระดับกลางมีความต้องการสูง
นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างศึกษาการเจาะตลาดในต่างจังหวัดมากขึ้น ขณะนี้กำลังพิจารณาตลาดในเชียงใหม่ เป็นโครงการแนวราบ ซึ่งคาดว่าจะเห็นได้ในปีหน้า
*ปี 51 เปิดโครงการ 8 แห่ง มูลค่า 4.7 พันล้านบาท/รายได้โต 20%
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ในปี 51 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโต 20% จากการเปิดตัวโครงการใหม่ 8 โครงการ มูลค่ารวม 4.7 พันล้านบาท และยังมีโครงการที่ขยายต่อเนื่องจากปีก่อน 5 โครงการ พร้อมทั้งปรับขึ้นราคาขายโครงการใหม่ตามภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่ออัตรากำไรขั้นต้นในขณะนี้
เท่าที่ประเมินบริษัทเชื่อว่าต้นทุนที่เกิดจากราคาน้ำมัน จะปรับเพิ่มขึ้น 5-10% จะส่งผลให้อัตรากำไรชั้นต้นปรับลดลงประมาณ 2-3% จาก 35-40% ในปีก่อน
"ช่วงแรกบริษัทจะประเมินสถานการณ์ และพยายามลดค่าใช้จ่ายภายใน คุยกับซัพพลายเออร์ เพื่อจะได้ไม่ผลักภาระให้กับผู้บริโภค แต่เชื่อว่าต้นทุนจะเพิ่มขึ้น บริษัทอสังหาฯทุกแห่งได้รับผลกระทบ คิดว่าในไตรมาส 2 หรือ 3 โดยเฉพาะโครงการใหม่ อาจปรับขึ้นราคา" น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าว
สำหรับโครงการใหม่ 8 โครงการ และการขยายโครงการเดิมต่อเนื่องจากปีก่อน จะส่งผลให้บริษัทมีมูลค่าโครงการจำนวน 13 โครงการ มูลค่ารวม 6.5 พันล้านบาท โดยในครึ่งปีแรกจะเปิดโครงการใหม่ 2 แห่ง และที่เหลือจะเปิดตัวในครึ่งปีหลัง
แม้แนวโน้มการเติบโตอสังหาริมทรัพย์จะเติบโตไม่มากจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอ รวมถึงปัจจัยภายนอกและการแข่งขันที่สูงในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ก็ตาม แต่บริษัทก็ยังเชื่อว่าในปีนี้บริษัทยังสามารถมีการเติบโตของรายได้ไม่ต่ำกว่า 20% จากปีก่อน
"การที่ SC ได้รีแบนด์ดิ้ง ตั้งแต่ต้นปี 2550 ที่ผ่านมา ทำให้ยอดขายเราเป็นไปตามที่วางไว้ และเติบโตสูงขึ้นทุกไตรมาส มียอดขายรวมทั้งปี(50) 2.6 พันล้านบาท หรือเติบโต 60% จากปี 49 และในปีนี้เราก็จะมีการพัฒนาในการดีไซน์แบบบ้านให้มีสไตล์โมเดิร์นเพื่อเจาะเกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย" น.ส. ยิ่งลักษณ์ กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทได้เตรียมงบลงทุนเพื่อซื่อที่ดินใหม่อีกจำนวน 1 พันล้านบาท เพื่อรองรับการขยายโครงการในอนาคต
ในช่วงนี้บริษัทคงยังไม่มีแผนระดมทุน เพราะปัจจุบันยังมีเงินสดอยู่ในมือกว่า 2 พันล้านบาทซึ่งถือว่าเพียงพอต่อการทำธุรกิจใน 2-3 ปีข้างหน้า
--อินโฟเควสท์ โดย จริญยา ดำสมาน/เสาวลักษณ์/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--