(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับขึ้นตามตลาดหุ้นทั่วโลก ขานรับ"ทรัมป์"ประกาศเลื่อนกำหนดเส้นตายออกไป

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday February 25, 2019 09:25 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวขึ้นตามตลาดหุ้นทั่วโลก โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างปรับตัวขึ้นกันทั่วหน้า เช่นเดียวกับดาวโจนส์ฟิวเจอร์ที่ปรับตัวขึ้น และราคาน้ำมันซื้อขายล่วงหน้าก็ปรับตัวขึ้น ขานรับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ประกาศอย่างเป็นทางการในการเลื่อนกำหนดเส้นตายสำหรับการบรรลุข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนที่กำหนดไว้ในวันที่ 1 มี.ค.ออกไป

อย่างไรก็ดี ให้ระวังในเรื่องปัจจัยพื้นฐานให้มากขึ้นหลังจากที่ตัวเลขเศรษฐกิจออกมาไม่ค่อยดี โดยตัวเลขส่งออกติดลบมากกว่าคาด และให้ติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนต่อไป แม้ว่างบฯจะออกมาไม่ค่อยดี ทำให้กำไรปีที่แล้ว (2561) ไม่โต แต่ก็ประกาศออกมาแค่ 40% เท่านั้น ที่เหลือยังต้องติดตามดูต่อไป

พร้อมให้แนวรับ 1,650 จุด ส่วนแนวต้าน 1,667-1,670 ถัดไป 1,680 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (22 ก.พ.62) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,031.81 จุด เพิ่มขึ้น 181.18 จุด(+0.70%) ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,792.67 จุด เพิ่มขึ้น 17.79 จุด (+0.64%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,527.54 จุด เพิ่มขึ้น 67.84 จุด (+0.91%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 142.15 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 10.63 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 20.53 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 3.55 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 159.22 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 34.16 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 0.92 จุด, ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซีย เพิ่มขึ้น 20.93 จุด

ส่วนตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ปิดทำการวันนี้ (25 ก.พ.) เนื่องในวันครบรอบการปฏิวัติพลังประชาชน

  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (22 ก.พ.62) 1,659.20 จุด เพิ่มขึ้น 11.88 จุด (+0.72%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 3,261.91 ล้านบาท เมื่อวันที่ 22 ก.พ.62
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน เม.ย. ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (22 ก.พ.62) ปิดที่ 57.26 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 30 เซนต์ หรือ 0.5%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (22 ก.พ.62) ที่ 2.89 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 31.29 แข็งค่าเกาะกลุ่มภูมิภาค ขานรับการเจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีนคืบหน้า
  • รฟม.ยัน เม.ย.นี้ รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ยังไม่เปิดบริการ ชี้รถขบวนแรกเพิ่งเข้ามา ต้องผ่านทดสอบอีกหลายขั้นตอน คาดใช้เวลา 2 เดือน และจะนำไปใช้วิ่งเสริมในระบบ MRT เดิมก่อน เพื่อลดความแออัด
  • สรท.ชี้บาทแข็งค่าตั้งแต่ปี 61 ถึงปัจจุบัน ทำส่งออกสูญรายได้แล้ว 4 แสนล้านบาท ห่วงไทยเสียตลาดส่งออก "พาณิชย์" เรียกเอกชนถกรับมือ 25 ก.พ.นี้ ด้านกรมทรัพย์สินทางปัญญากางแผนขับเคลื่อนสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ปี 62 จดทะเบียนอีก 8 สินค้าใน 7 จังหวัด ล่าสุด ครม.ไฟเขียวตั้งคณะกรรมการระดับจังหวัดส่งเสริม คุ้มครองสินค้า GI
  • ตลาดหลักทรัพย์ โชว์กำไรปี 61 กว่า 1.95 พันล้าน เพิ่มขึ้น 6.6% เหตุรายได้ค่าธรรมเนียมเทรดหุ้น อนุพันธ์ พุ่งตามมูลค่าการซื้อขาย เผยปัจจุบันมีเงิน ลงทุนกว่า 2.86 หมื่นล้าน เพิ่มขึ้น 4.72%
  • บอร์ดจี้ กทพ.เบิกจ่ายงบประมาณ พบ 2 ไตรมาสที่ผ่านมามีความล่าช้ามาก พร้อมสั่งเร่งเดินหน้าแผนลงทุนทางด่วนภูเก็ตและพระราม 3-ดาวคะนอง มูลค่า 6 หมื่นล้านบาทก่อนเลือกตั้งให้เป็นไปตามเป้าที่กำหนด

*หุ้นเด่นวันนี้

  • ERW (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 8 บาท ยอดนักท่องเที่ยว ม.ค. 19 +5% Y-Y ชาวจีนกลับมาโตแรง 28% M-M, 10% Y-Y เป็นไปตามที่คาดว่าปีนีภาคท่องเที่ยวจะกลับมาเด่น ถือเป็นปัจจัยบวกต่อ ERW โดยตรง โดยคาดกำไร Q4/61 ที่ 169 ลบ. +308.1% Q-Q, +5% Y-Y จากรายได้โตเร่งตัวหลังเปิดโรงแรมใหม่และต้นทุนที่คุมได้ดีกว่าคาด
  • EA (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 63) คาดกำไรสุทธิ Q4/61 ประมาณ 1.12 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 27%yoy แนวโน้ม Q1/62 คาดกำไรสุทธิพุ่งทำ All time high รับข่าวดีโรงไฟฟ้าพลังงานลม โครงการหนุมาน 1 และ 8 กำลังการผลิตรวม 90MW เริ่ม COD ตั้งแต่ 25 ม.ค.
  • IVL (กสิกรไทย) "ซื้อ"เป้า 69.25 บาท โดยผู้บริหารยังมั่นใจว่ากำไรปี 2562 จะเติบโตต่อเนื่อง YoY จากโอกาสที่ EBITDA/ตัน และปริมาณการขายจะปรับสูงขึ้น เราจึงปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2561-63 ขึ้น 21-28% เป็น 3.03 หมื่นลบ./3.14 หมื่นลบ./3.45 หมื่นลบ. ขณะเดียวกัน IVL คือหุ้นกลุ่มปิโตรเคมีเพียงบริษัทเดียวที่วิเคราะห์อยู่ที่มีกำไรอยู่ในทิศทางขาขึ้นในช่วงปี 61-63
  • GULF (เคทีบี) "ซื้อ"เป้าเชิงกลยุทธ์ 96 บาท ราคาหุ้นทำ New high แสดงถึงความเชื่อมั่นต่อนโยบายการลงทุนระยะยาวของบริษัท โดยเชื่อว่า GULF ไม่ใช่แค่หุ้นโรงไฟฟ้า แต่ด้วยการที่มีกระแสเงินสดล้นเหลือทำให้มีความพร้อมที่จะเข้าลงทุนในธุรกิจใหม่ที่เป็นธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานของไทย อาธิ โครงการท่าเรือ และเข้าประมูลธุรกิจ LNG พร้อมคาดกำไรปี 2562 อยู่ 4 พันลบ. จากการรับรู้รายได้โรงไฟฟ้าประเภท SPP ขนาด 500MW COD เมื่อปี 2561 เข้ามาเต็มปีในปี 2562 นอกจากนี้ GULF จะได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทแข็งจากยอดหนี้ US 600 ล้าน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ