นายบัญชัย ครุจิตร รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สหไทย เทอร์มินอล (PORT) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปีนี้จะเติบโต 10% จากปีก่อน ด้วยปริมาณการนำเข้าและส่งออกทีเพิ่มสูงขึ้น แม้ว่าในช่วงไตรมาส 1/62 นี้ผลประกอบการจะออกมาทรงตัว แต่ก็เชื่อว่าไตรมาส 2/62 ผลประกอบการจะเติบโตได้ดีขึ้น หลังจากการเลือกตั้งในประเทศผ่านไปด้วยดี และการเจรจาทางการค้าระหว่างประเทศจีน และสหรัฐบรรลุข้อตกลงกันได้
"ท่าเรือของเราค่อนข้างที่จะดีแม้ว่าเงินบาทยังคงแข็งค่ามาต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นกลุ่มที่แข็งแรง ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ หรือจะเป็นกลุ่มสินค้าทางการเกษตร ที่ถึงแม้ว่าค่าเงินบาทจะแข็งค่าขึ้น แต่ก็ยังมีความจำเป็นในสายการผลิต และการบริโภคที่ขาดไม่ได้ ส่งผลให้ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจชะลอตัวแต่การขนส่งทั้งเข้าและออก ยังเติบโตได้ โดยปัจจุบันบริษัทมีรายได้จากการนำเข้า 40% และส่งออก 60%"นายบัญชัย กล่าว
ในปีนี้บริษัทยังตั้งเป้ารักษาอัตรากำไรสุทธิที่ 7-12% จากปีก่อนที่ 8.77% แต่บริษัทยังคงต้องติดตามความเสี่ยงที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเมืองในประเทศ สงครามทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ
ส่วนการจัดตั้งบริษัท บางกอก ริเวอร์ เทอมินอล จำกัด (Bangkok River Terminal) เพื่อลงทุนในโครงการท่าเรือแห่งใหม่ ร่วมกับบริษัท APM Terminals จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ A.P.Moller-Maersk สายเรืออันดับหนึ่งของโลก และกลุ่มน้ำตาลมิตรผล เพื่อรองรับการขยายตัวของการนำเข้าและส่งออกของประเทศที่เพิ่มมากขึ้นนั้น ปัจจุบันอยู่ระหว่างการประเมินผลกระทบจากโครงการพัฒนาที่จะมีต่อสุขภาพหรือความสมบูรณ์ของสิ่งแวดล้อม (EIA) โดยคาดจะใช้งบลงทุนไม่เกิน 1,000 ล้านบาท และจะก่อสร้างแล้วเสร็จในช่วงไตรมาส 1/64
ขณะที่บริษัท บางกอกโลจิสติกส์ พาร์ค จำกัด (Bangkok Logistics Park) โดยร่วมทุนกับ บมจ.ฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) (FPI) ซึ่งจัดตั้งเพื่อลงทุน พัฒนา และบริหารโครงการโลจิสติกส์พาร์ค และศูนย์กระจายสินค้าบนพื้นที่กว่า 50 ไร่ ในเขตพื้นที่ขอบเมืองกรุงเทพมหานคร เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่มีการเติบโตแบบก้าวกระโดดสอดรับเทรนด์ธุรกิจยุคดิจิทัล คาดจะใช้งบลงทุนราว 800 ล้านบาท ขนาดพื้นที่ 50,000 ตารางเมตร ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการออกแบบ น่าจะเปิดใช้งานได้ในช่วงไตรมาส 3/63