(เพิ่มเติม) ASAP หวังปีนี้รายได้โต 25-30% เปิด asap Select เฟรนไชส์รถเช่าหัวเมืองใหญ่ช่วง Q3/62 เป้าเปิด 30 สาขาใน 5 ปี

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday February 25, 2019 14:52 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายทรงวิทย์ ฐิติปุญญา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซินเนอร์เจติค ออโต้ เพอร์ฟอร์มานซ์ (ASAP) บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 62 เติบโต 25-30% จากการเติบโตอย่างต่อเนื่องของธุรกิจรถเช่าระยะยาวและระยะสั้น ซึ่งยังคงเห็นความต้องการใชิบริการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งจากกลุ่มลูกค้าองค์กรและลูกค้าทั่วไป โดยที่บริษัทได้มีการขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับการเปิดสาขาเฟรนไชส์ เพื่อเข้าถึงลูกค้าได้ในหลากหลายพื้นที่มากขึ้น

ประกอบกับในปี 62 จะเป็นปีที่บริษัทมีจำนวนรถเช่าครบ 20,000 คัน ซึ่งเร็วกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ในปี 63 โดยที่ ณ สิ้นไตรมาส 3/61 บริษัทมีจำนวนรถเช่าทั้งหมด 18,000 คัน ซึ่งการที่มีจำนวนรถเช่าเพิ่มขึ้น ทำให้บริษัทจะมีจำนวนรถรองรับกับลูกค้าที่เพิ่มเข้ามา และทำให้บริษัทเกิดการประหยัดต่อขนาด (Economy of scale) ส่งผลดีต่อภาพรวมของผลการดำเนินงานที่ยังเห็นการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

นายทรงวิทย์ กล่าวว่า การให้บริการรถเช่าระยะสั้นในปี 62 บริษัทประเมินว่าจำนวนวันที่ลูกค้าใช้บริการจะเพิ่มขึ้นมาถึงจุดคุ้มทุนที่ 100,000-120,000 วัน/ปี จากปีก่อนที่ 80,000 วัน/ปี โดยล่าสุดในช่วงเดือน ม.ค.ที่ผ่านมามีจำนวนวันที่ลูกค้าให้บริการรถเช่าอยู่ที่ 12,000 วัน ซึ่งปัจจัยสนับสนุนมาจากการท่องเที่ยวไทยยังคงเติบโตมาก โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้านักท่องเที่ยวชาวไทยที่ยังเป็นลูกค้าหลักที่ใช้บริการรถเช่าระยะสั้น ประกอบกับลูกค้าชาวต่างชาติที่มาท่องเที่ยวไทยนิยมเช่ารถมากขึ้น

ปัจจุบันบริษัทมีสาขาให้บริการรถเช่าระยะสั้นในสนามบินของ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) ทั้งหมด 7 แห่ง

ในปีนี้บริษัทจะแบรนด์ ‘asap Select’ เป็นแฟรนไชส์ของศูนย์รวมการให้บริการรถยนต์อย่างครบวงจร เพื่อขยายจุดให้บริการลูกค้ารายย่อยได้เข้าถึงสินค้าและบริการรถยนต์ให้เช่าระยะสั้นและรถมือสองได้เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในหัวเมืองใหญ่ ซึ่งได้เซ็นสัญญากับผู้ซื้อเฟรนไชส์ไปแล้ว 5 รายในเชียงใหม่ นครราชสีมา อุบลราชธานี นนทบุรี และกรุงเทพฯ ย่านอ่อนนุช เพื่อรองรับการบริการลูกค้าภายนอกสนามบิน โดยจะเปิดให้บริการในไตรมาส 3/62 และจะขยายเป็น 30 แห่งภายใน 5 ปี คาดว่าจะทำให้สัดส่วนรายได้ของธุรกิจรถเช่าระยะสั้นเพิ่มเป็น 20% จากปัจจุบัน 5% ขณะที่สัดส่วนรายได้ส่วนใหญ่ยังมาจากธุรกิจรถเช่าระยะยาว 95%

"รถเช่าระยะยาวเป็นธุรกิจที่ให้มาร์จิ้นน้อย แต่ก็สร้างรายได้ประจำให้กับบริษัท ซึ่งทำให้เราต้องการขยายกลุ่มลูกค้ารายย่อยที่เช่ารถยนต์ระยะสั้นให้เพิ่มขึ้น เพราะเป็นกลุ่มที่ให้มาร์จิ้นดี ทำให้เราขยายเฟรนไชส์ไปตามที่ต่างๆ เพื่อเข้าถึงลูกค้ากลุ่มนี้ได้มากขึ้น และต้นทุนของเฟรนไชส์ถูกกว่าการที่เราไปเช่าที่เปิดสาขาในสนามบิน ทำให้จะส่งผลดีต่อต้นทุนที่ลดลง และการมี OTA ระดับโลกที่เข้าร่วมเป็นพีนธมิตร ทำให้บริษัทเข้าถึงลูกค้าต่างชาติได้มากขึ้น"นายทรงวิทย์ กล่าว

นอกจากนี้ ในส่วนของการให้บริการ asap Go สำหรับลูกค้าองค์กร บริษัทตั้งเป้าจะมีลูกค้าองค์กรที่ใช้บริการดังกล่าวเพิ่มเป็น 40-50 บริษัท จากปัจจุบันที่มีโตโยต้ามอเตอร์ กรุ๊ป ใช้บริการไปแล้ว ส่วนบริษัทที่อยู่ระหว่างการทดลองใช้ คือ SCG และ Betagro โดยบริษัทจะทยอยเข้าไปทดสอบการให้บริการกับลูกค้าองค์กร ส่วนการลงทุนในปีนี้บริษัทจะใช้งบลงทุน 3-4 พันล้านบาท เพื่อใช้ซื้อรถยนต์มาเพิ่มอีก 3,000-4,000 คัน รองรับการให้บริการรถเช่า


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ