ธนาคารธนชาต(TBANK) เปิดแผนธุรกิจปี 51 ยังคงยึดมั่นในธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำในธุรกิจนี้ ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อเช่าซื้ออีก 90,000 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้รักษาความเป็นผู้นำและส่วนแบ่งทางการตลาดที่มีมากกว่า 20% ไว้ได้ พร้อมทั้งรุกสู่ธุรกิจประเภทอื่นๆ ทั้งสินเชื่อธุรกิจ สินเชื่อเคหะ สินเชื่อ SMEs บัตรเครดิต ธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ เปิดสาขาอีกประมาณ 80 สาขา
TBANK มีเป้าหมายในอีก 3 ปี ข้างหน้ากลุ่มธนชาตจะมีสินทรัพย์เพิ่มเป็น 5 แสนล้านบาท มีสาขาประมาณ 350 สาขา ตู้ ATM 525 ตู้ รักษาความเป็นผู้นำในตลาดสินเชื่อเช่าซื้อ ในขณะเดียวกันก็จะดำเนินนโยบายเชิงรุกในการเพิ่มสัดส่วนสินเชื่อด้านอื่นๆ เช่น สินเชื่อธุรกิจ และสินเชื่อ SMEs
"ธนาคารธนชาต ยังคงให้ความสำคัญกับธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ ซึ่งเป็นธุรกิจที่ธนาคารฯ มีความถนัดและเป็นผู้นำในธุรกิจนี้" นายศุภเดช พูนพิพัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ทุนธนชาต (TCAP) กล่าว
และต่อไปในอนาคตธนาคารจะเพิ่มสัดส่วนเงินให้กู้ยืมในประเภทอื่นๆ ทั้งกลุ่มลูกค้ารายใหญ่ (Corporate Finance) สินเชื่อ SMEs สินเชื่อเคหะ รวมทั้งหารายได้จากค่าธรรมเนียมในธุรกิจอื่น เช่น ธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ (Trade Finance) ซึ่งเป็นอีกแหล่งรายได้ที่มีโอกาสเติบโตสูง เนื่องจากจะอาศัยเครือข่ายของธนาคารแห่งโนวาสโกเทีย ผู้ถือหุ้นใหญ่ ที่มีใน 50 ประเทศทั่วโลกเป็นส่วนสนับสนุน
ในปี 51 ธนาคารฯ พร้อมจะเปิดให้บริการบัตรเครดิต เพื่อเป็นการสร้างรายได้ค่าธรรมเนียมให้ธนาคาร และเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยจะใช้ฐานลูกค้าที่มีอยู่ประมาณ 1 ล้านรายในการทำตลาด และตั้งเป้าจะเปิดสาขาใหม่ในปีนี้อีกประมาณ 80 สาขาทั่วประเทศ ทำให้ ณ สิ้นปี 51 คาดว่าธนาคารจะมีสาขาประมาณ 250 สาขา
ในส่วนของธุรกิจเงินฝาก ธนาคารฯ ตั้งเป้าจะระดมเงินฝากได้ถึง 430,000 ล้านบาท ในอีก 3 ปีข้างหน้า ซึ่งหลังจากธนาคารแห่งโนวาสโกเทียได้เข้ามาร่วมดำเนินงาน มีส่วนช่วยสนับสนุนให้การบริหารเงินภายในธนาคาร หรือ Treasury เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น สามารถบริหารผลตอบแทนได้สูงกว่าต้นทุนเงินฝาก ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งแหล่งรายได้ที่สามารถสร้างผลกำไรได้เป็นอย่างดี
สำหรับการเพิกถอนหุ้น TBANK ออกจากการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ธนาคารฯ คาดว่าจะไม่มีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นต่อผู้ฝากเงิน เพราะความเชื่อมั่นในการฝากเงินมาจากตัวธนาคาร ที่สะท้อนมาจากฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งของธนาคารเองและผู้ถือหุ้น และที่ผ่านมาธนาคารฯยังได้รับการจัดเพิ่มอันดับเครดิตที่ดีขึ้นจากบริษัท ฟิชท์เรทติ้ง
ปัจจุบันธนาคารฯมีผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 2 ราย ที่มีฐานะทางการเงินที่มั่นคง คือ TCAP ถือหุ้น 74.92% และธนาคารแห่งโนวาสโกเทีย ถือหุ้น 24.98% ซึ่งผู้ถือหุ้นทั้ง 2 ราย มีนโยบายที่จะถือหุ้นในระยะยาว และไม่มีนโยบายที่กระจายหุ้นสู่ผู้ถือหุ้นรายย่อย
--อินโฟเควสท์ โดย อภิญญา วุฒิเมธากุล/เสาวลักษณ์/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--