นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ยังมีโมเมนตัมเป็นบวกอยู่ แต่คาดว่าดัชนีฯคงจะแกว่งไซด์เวย์ในกรอบแคบ โดยคาดว่าจะเผชิญแรงถ่วงจากราคาน้ำมันที่ร่วงแรงกว่า 3% หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ ได้กดดันให้กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ให้ระงับการปรับขึ้นราคาน้ำมัน โดยระบุว่า ไม่สามารถรับมือกับราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นได้ ทำให้อาจจะไปกดดันหุ้นในกลุ่มพลังงาน และกลุ่มปิโตรเคมี ได้
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่จะเคลื่อนไหวในแดนบวก ตอบรับสัญญาณบวกจากการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ที่มีความคืบหน้าไปมาก
ส่วนบ้านเราคงจะต้องติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งส่วนใหญ่งบฯที่ออกมาต่ำกว่าคาด ดังนั้น ตลาดฯอาจปรับประมาณการใหม่ แต่ตลาดก็ยังได้ปัจจัยบวกจากการเลือกตั้ง และสงครามการค้าอยู่
พร้อมให้นแนวรับ 1,665 จุด ส่วนแนวต้าน 1,680 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (25 ก.พ.62) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,091.95 จุด เพิ่มขึ้น 60.14 จุด (+0.23%) ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,796.11 จุด เพิ่มขึ้น 3.44 จุด (+0.12%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,554.46 จุด เพิ่มขึ้น 26.92 จุด (+0.36%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 27.79 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 7.82 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 11.93 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 12.10 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 2.19 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 0.23 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 0.99 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 34.02 จุด, ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซีย เพิ่มขึ้น 2.36 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (25 ก.พ.62) 1,671.75 จุด เพิ่มขึ้น 12.55 จุด (+0.76%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 4.73 ล้านบาท เมื่อวันที่ 25 ก.พ.62
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน เม.ย. ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (25 ก.พ.62) ปิดที่ 55.48 ดอลลาร์/บาร์เรล ร่วงลง 1.78 ดอลลาร์ หรือ 3.1%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (25 ก.พ.62) ที่ 2.80 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 31.25/29 แข็งค่าจากวานนี้ ตลาดจับตากรณี Brexit หลังมีแนวโน้มเลื่อน
- "สมคิด"ห่วงเศรษฐกิจ ครึ่งปีแรกไร้แรงหนุน เหตุนักลงทุน หยุดรอดูผลเลือกตั้ง ขณะการลงทุนรัฐ ขาดพลังรอรัฐบาลใหม่ มั่นใจหากรัฐบาลใหม่สานต่อนโยบายลงทุนเดิมเศรษฐกิจ ครึ่งปีหลังพุ่งแน่ พร้อมระบุพื้นฐานเศรษฐกิจไทยยังแกร่ง ดึงเงินบาทแข็ง จี้ผู้ส่งออกประกันความเสี่ยง
- "พาณิชย์" คงเป้าส่งออกปี 62 โต 8% ไว้เป็นเป้าทำงาน เผยมีแผนดันส่งออกร่วมกับภาคเอกชน ทั้งรายตลาด และรายสินค้า ด้านเอกชนมองสวนคาดโตแค่ 3% หากรัฐช่วยอัดฉีดอาจโตได้ถึง 5% จี้ดูแลบาทแข็ง เหตุกระทบต่อรายได้และการแข่งขัน พร้อมวอนให้ชะลอการปรับขึ้นค่าแรงงานขั้นต่ำ หวั่นยิ่งทำต้นทุนเพิ่ม
- อีอีซีเดินหน้าลงทุนมหานครการบินภาคตะวันออก 5 ปี วงเงิน 7.5 แสนล้านบาท ยันทุกโครงการประมูลจบ เม.ย.
- ปลัดคลังคาดปีนี้เศรษฐกิจโต 4% เชื่อส่งออกยังขยายตัว มั่นใจ กนง.ไม่ขึ้นดอกเบี้ยปีนี้ ด้าน 'กรุงไทย' จ่อขึ้นดอกเบี้ยกู้ รอจังหวะเหมาะสม หวังรักษากำไร ทุ่ม 1.9 หมื่นล้านบาทลุยดิจิทัล-ลั่นไม่ลดพนักงาน
- รมว.พลังงาน มอบกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติเตรียมพร้อมเปิดให้เอกชนยื่นสำรวจและผลิตปิโตรเลียมรอบใหม่พื้นที่อ่าวไทยในระบบ PSC ภายในมิ.ย.นี้ หวังรัฐบาลใหม่มาเดินหน้าต่อได้ทันที เผยเกณฑ์เหมือนเอราวัณ-บงกช ต้องเสนอให้หน่วยงานรัฐถือหุ้น 25%
*หุ้นเด่นวันนี้
- SAWAD (กรุงศรี) "ซื้อเก็งกำไร"เป้า 55 บาท คาดมีกำไรสุทธิ Q4/61 ประมาณ 821 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 7%qoq และ 52%yoy จากยอดสินเชื่อขยายตัวขณะที่ NIM ยังเพิ่มขึ้น ส่วนปีนี้คาดกำไรสุทธิโตต่อเนื่องอีก 30%yoy เป็น 3,500 ล้านบาท
- THMUI (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 2.30 บาท งบ Q4/61 พลิกมามีกำไร 5 ล้านบาท จากขาดทุน 3 ล้านบาท ใน Q4/60 ทำให้ทั้งปี 2561 มีกำไร 31 ล้านบาท +46% Y-Y จากงานวางท่อปะปาและระบบบำบัดน้ำเสีย พร้อมคาดกำไรปี 2562 ที่ 39 ล้านบาท +25% Y-Y จากยอดขายสลิงที่โตตามโครงสร้างพื้นฐานและงานวางระบบบำบัดน้ำเสีย ด้าน PE2562 เพียง 12 เท่า ต่ำกว่ากลุ่มวัสดุก่อสร้างที่ 15 เท่า
- CPALL (เมย์แบงก์ กิมเอ็ง) "ซื้อ"เป้า 81 บาท เงินปันผลปี 2561 เท่ากับ 1.20 บาท/หุ้น (XD 3 พ.ค.) คิดเป็นอัตราผลตอบแทน 1.6% ทั้งนี้ คาดว่าการเติบโตระยะยาวมีอัพไซด์จากการที่ CPALL ได้มีการลงนามในบันทึกข้อตกลงเบื้องต้น (Indicative Term Sheet) กับ 7-Eleven, Inc. สำหรับการได้รับสิทธิแฟรนไชส์ในการจัดตั้งและดำเนินการร้านเซเว่นฯ ในกัมพูชาและลาว โดยอาจจะมีการเข้าทำสัญญาแฟรนไชส์หลัก (Master Franchise Agreement) ภายใน Q2/62 หรืออาจไม่ได้ทำสัญญา ขึ้นกับการเจรจาเงื่อนไขสัญญาและการศึกษาความเป็นได้ในการลงทุน