นายทศพร จิตตวีระ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ฟลอยด์ (FLOYD) กล่าวว่า แนวโน้มผลประกอบการในปี 62 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตราว 10-15% คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจและการเมืองในประเทศที่จะมีการเลือกตั้งช่วงเดือนมีนาคมนี้ ส่งผลให้ผู้ประกอบการเอกชนมีความมั่นใจในการลงทุน ซึ่งจะทำให้ปีนี้มีงานประมูลโครงการใหม่ๆเพิ่มมากขึ้น ทั้งงานโครงการโครงสร้างพื้นฐานการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีต่างๆ อาคารที่พักอาศัย และห้างสรรพสินค้า เป็นต้น โดย FLOYD มีความพร้อมที่จะเข้าประมูลงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อสะสมงานในมือ (Backlog) เข้ามาเพิ่มเติมจากปัจจุบันที่มีอยู่ 340 ล้านบาท
สำหรับการเข้าประมูลงานใหม่ในปีนี้ บริษัทยังคงเน้นการรักษากลุ่มลูกค้าเก่า ส่วนกลุ่มลูกค้าใหม่ขณะนี้อยู่ระหว่างการเร่งขยายฐานลูกค้าให้มากขึ้น โดยวางแผนเข้าประมูลงานในกลุ่มธุรกิจโรงพยาบาล เนื่องจากมองว่าในช่วง 2-3 ปีนี้มีการลงทุนและสร้างโรงพยาบาลเอกชนหลายๆแห่ง จึงมองว่าเป็นโอกาสที่จะได้งาน ซึ่ง FLOYD เป็นหนึ่งในผู้รับเหมาติดตั้งงานวางระบบครบวงจร ที่ได้รับการยอมรับทั้งในเรื่องคุณภาพงานและการบริการที่รวดเร็ว และมีทีมงานวิศวกรที่มีประสบการณ์และเชี่ยวชาญในธุรกิจ นอกจากนี้ยังมีธุรกิจที่บริษัทสนใจเข้าร่วมประมูลงานเพิ่ม
ส่วนผลประกอบการของบริษัทฯในงวดปี 61 บริษัทมีรายได้จากการให้บริการ 404.20 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 93.33 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.02% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 310.87 ล้านบาท โดยรายได้จากการให้บริการของบริษัทฯมาจากการรับรู้รายได้งานอาคารสูง งานแนวราบซึ่งเป็นงานห้างสรรพสินค้า และงานปรับปรุงงานเพิ่มอื่นๆ ทำให้บริษัทฯทยอยรับรู้รายได้จากการให้บริการได้อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีกำไรสุทธิ 43.99 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 18.85 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.14 ล้านบาท คิดเป็น 133.37%
"กำไรสุทธิโตกว่า 133 % เช่นเดียวกับรายได้ที่เพิ่มขึ้นกว่า 30% จากภาพรวมศรษฐกิจ และการลงทุนในประเทศกลับมาฟื้นตัวต่อเนื่อง ส่งผลดีต่อ FLOYD ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้รับเหมาติดตั้งงานวางระบบครบวงจร ที่ได้รับการยอมรับทั้งในเรื่องคุณภาพงานและการบริการที่รวดเร็ว ด้วยทีมงานวิศวกรที่มีประสบการณ์และเชี่ยวชาญในธุรกิจ" นายทศพร กล่าว