นางสาวพาพิชญ์ วงศ์ไพฑูรย์ปิยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ริช สปอร์ต (RSP) เปิดเผยว่า บริษัทวางเป้ารายได้ปี 62 เติบโต 10% จากปีก่อน หลังคาดว่าจะได้รับปัจจัยบวกจากการเลือกตั้งในเดือนมี.ค.นี้ ซึ่งหากทุกอย่างเป็นไปตามแผน จะส่งผลดีต่อภาพรวมเศรษฐกิจและธุรกิจค้าปลีกให้มีการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้น
โดยแผนธุรกิจปีนี้บริษัทจะเน้นช่องทางการขายผ่านออนไลน์มากขึ้น รวมทั้งปรับการบริหารจัดการภายในให้ดีขึ้น ซึ่งจากการทดลองขายผ่านออนไลน์ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา พบว่ายอดขายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการเข้าร่วมแคมเปญต่าง ๆ ในเว็บไซต์ Lazada และ Shopee ซึ่งมีผู้เข้ามาชมเป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดการซื้อสินค้า
ในปีนี้บริษัทตั้งเป้ายอดขายผ่านออนไลน์เพิ่มขึ้น 1-3% ของสัดส่วนรายได้จากการขายรวม รวมทั้งมีแผนเปิด E-Commerce บนเว็บไซต์ของบริษัทเอง คาดว่าจะเริ่มได้ปี 63 ประกอบกับจะมีการจัดโปรโมชั่นและสินค้าพิเศษสำหรับกลุ่มลูกค้าออนไลน์เพื่อกระตุ้นยอดขาย ทำให้คาดว่าสัดส่วนรายได้จากยอดขายออนไลน์ในช่วง 3-5 ปีนี้ จะขึ้นมาอยู่ที่ 10%
ขณะที่บริษัทจะไม่มุ่งเน้นแผนสาขาใหม่เพิ่มมากในปีนี้ โดยแบรนด์ Converse จะเปิดเพิ่ม 5-10 สาขา และแบรนด์ Pony เพิ่มอีกประมาณ 10 สาขา การเปิดสาขาจะคู่ขนานไปกับห้างที่เปิดใหม่ โดย ณ สิ้นปี 61 บริษัทมีสาขารวมกันทั้งสิ้น 194 สาขา แบ่งเป็น Converse 160 สาขา และ Pony 34 สาขา
สำหรับแผนการขยายตลาดไปยังประเทศกัมพูชาในปีนี้ วางแผนขยายสาขาทั้งแบรนด์ Converse และ Pony เพิ่ม 1-2 สาขา ทั้งนี้มองว่าตลาดกัมพูชายังมีโอกาสโตได้อีก ยอดขายต่อสาขาค่อย ๆ เพิ่มขึ้น จากเศรษฐกิจและกำลังซื้อในประเทศดีขึ้น ประกอบกับคนรุ่นใหม่ในกัมพูชา นิยมใช้อินเตอร์แบรนด์มากขึ้น ปัจจุบันมีสาขาในประเทศกัมพูชา แบ่งเป็น Converse 4 สาขา และ Pony 2 สาขา และในปีนี้คาดว่าจะมีสัดส่วนรายได้อยู่ที่ 1-2%
นางสาวพาพิชญ์ กล่าวว่า ภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศมีการฟื้นตัวที่ดี คาดว่าจะส่งผลให้ยอดขายจากสาขาเก่าและสาขาใหม่มีการเติบโตขึ้น รวมทั้งการรุกตลาดออนไลน์เพิ่มขึ้น และการที่บริษัทมุ่งเน้นการทำการตลาดและโฆษณาประชาสัมพันธ์ เพื่อตอกย้ำแบรนด์สินค้าให้แข็งแกร่ง มั่นใจยอดขายทั้งปีจะเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ นอกจากนี้ยังมีแผนเพิ่มแบรนด์สินค้าใหม่ ซึ่งเป็นแบรนด์ต่างชาติ เข้ามาจำหน่ายทั้งในประเทศไทย และกัมพูชา คาดว่าจะได้เห็นความชัดเจนในช่วงกลางปีนี้ ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่จะเพิ่มแบรนด์ใหม่อย่างน้อยปีละ 1 แบรนด์ เพื่อก้าวขึ้นสู่ผู้นำด้านแฟชั่น
สำหรับผลประกอบการในงวดปี 61 บริษัทมีรายได้จากการขาย 1,148.97 ล้านบาท ลดลง 4.7% และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 157.6 ล้านบาท ลดลง 30.29% สาเหตุจากสภาพเศรษฐกิจโดยรวมไม่เอื้ออำนวย ทำให้กำลังซื้อลดลงทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด และบริษัทมีการบันทึกค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากการหยุดประกอบกิจการของบริษัทย่อย