นายสิทธิเดช มัยลาภ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สกาย ไอซีที (SKY) คาดว่าผลการดำเนินงานปี 62 จะเติบโตก้าวกระโดดต่อเนื่อง จากมูลค่างานในมือ ณ ปัจจุบันจากงานที่เซ็นสัญญาไปเมื่อปีที่ผ่านมาไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท และที่เพิ่งเซ็นสัญญางาน โครงการจัดให้มีบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่ห่างไกล (Zone C) ของทางสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เมื่อเดือน ม.ค.62 รวม 2 โซนไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท ในจำนวนนี้จะรับรู้เป็นรายได้ในปีนี้ประมาณ 900 ล้านบาท ทำให้เมื่อรวมมูลค่างานในมือกับงานใหม่ที่เซ็นสัญญาไปคาดว่าปีนี้จะรับรู้รายได้ไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ การรับรู้รายได้ดังกล่าวยังไม่นับรวมงานใหม่ที่บริษัท วางแผนจะเข้าไปประมูลแข่งขันอีกหลายโครงการ โดยในช่วงไตรมาส 1/62 บริษัทเตรียมที่จะเข้าประมูลงานใหม่ 3-4 โครงการ มูลค่ารวมหลายร้อยล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามแผนงานที่ในปีนี้ บริษัทจะให้ความสำคัญและจะรุกไปในธุรกิจหลัก 3 ลักษณะงาน คือ 1.Smart Security 2.Digital Platform และ 3.Radio Trunk ซึ่งจะเห็นผลงานด้านนี้ของบริษัทออกมามากขึ้นในปีนี้
"สกายเรามีประสบการณ์ มีศักยภาพพร้อมรับงานด้านซีเคียวริตี้ ด้านไอทีเราแข่งขันกับตลาดได้แน่นอน บริษัทมีความพร้อมทั้งด้านการเงิน บุคลากร ปีนี้เรามั่นใจว่าจะโตมากกกว่าเดิม คาดจะเติบโตก้าวกระโดดอย่างต่อเนื่องไม่แพ้ปีที่ผ่านมาแน่นอน"นายสิทธิเดช กล่าว
นายสิทธิเดช กล่าวอีกว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมไอทีในปี 62 คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่อง เนื่องจากความต้องการของผู้บริโภคทั้งในส่วนของภาครัฐและเอกชนมีความต้องการที่จะบริโภคไอทีมากขึ้น โดยบริษัทมีฐานลูกค้าในส่วนของภาครัฐประมาณ 80% ที่เหลืออีก 20% ของภาคเอกชน ซึ่งในส่วนภาครัฐเองก็ให้ความสำคัญกับการเพิ่มงบประมาณด้านไอที เพราะต้องการสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่ดี ให้มีความมั่นคงปลอดภัยให้ดับองค์กรของตัวเอง
ส่วนผลประกอบการปี 61 บริษัทมีรายได้รวม 966.33 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 79% และมีกำไรสุทธิ 108.52 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระดับกำไรสุทธิ 4.92 ล้านบาทในปี 60 โดยรายได้ที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจากการที่บริษัทมีแนวทางการดำเนินธุรกิจใหม่ที่มุ่งเน้นงานขนาดใหญ่ ที่สามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้น และมีความมั่นคงต่อเนื่อง โดยเฉพาะงานประมูลงานทางด้านเทคโนโลยีการสื่อสารและความมั่นคงกับภาครัฐ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐที่กำลังมุ่งเน้นพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีของประเทศ
ทั้งนี้ ในปีที่ผ่านมา บริษัทได้ทยอยส่งมอบและรับรู้รายได้จากโครงการหลัก ๆ ที่ประมูลได้ใน ปี 60 ได้แก่ 1.โครงการจ้างผู้ให้บริการรถเข็นกระเป๋า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 2.โครงการซื้อขายพร้อมติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และ 3.โครงการจัดให้มีสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่และบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่ชายขอบหมู่บ้านในพื้นที่ขอบ (Zone C+) กลุ่ม 4 (ภาคกลาง-ใต้) และกลุ่มที่ 5 (3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (รวม 4 อำเภอจังหวัดสงขลา)) ส่วนที่ 2 การจัดให้มีสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ (Mobile Service) สำหรับให้บริการแก่สำนักงาน กสทช.
"รายได้และกำไรปีที่แล้วเราเติบโตอย่างก้าวกระโดดหลังจากที่บริษัทได้มีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจตั้งแต่ปี 2560 โดยมุ่งเน้นการออกแบบและติดตั้งระบบคอมพิวเตอร์ ระบบเครือข่ายไร้สาย ระบบโปรแกรมประยุกต์ รวมทั้งระบบรักษาความปลอดภัยด้านเครือข่ายองค์กร ระบบกล้องวงจรปิด และการบริการหลังการขาย โดยส่วนใหญ่เป็นการประมูลงานกับภาครัฐ ซึ่งบริษัทได้มีการชนะการประมูลโครงการมาอย่างต่อเนื่อง"นายสิทธิเดช กล่าว