ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,663.56 จุด ลดลง 8.19 จุด (-0.49%) มูลค่าการซื้อขาย 53,064.96 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดทั้งวัน โดยดัชนีฯแตะจุดสูงสุดที่ 1,670.77 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,662.81 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 465 หลักทรัพย์ ลดลง 985 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 426 หลักทรัพย์
น.ส.จิตรา อมรธรรม รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวลง เช่นเดียวกับตลาดในยุโรปที่เทรดบ่ายนี้ต่างก็ติดลบกัน โดยรับแรงกดดันจากราคาน้ำมันปรับตัวลงหลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ ได้กดดันให้กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ให้ระงับการปรับขึ้นราคาน้ำมัน โดยระบุว่า ไม่สามารถรับมือกับราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นได้ ทำให้ไปกดดันหุ้นในกลุ่มพลังงาน
นอกจากนี้ หุ้นรายตัวก็เคลื่อนไหวตามผลประกอบการที่ประกาศออกมา อย่างหุ้น BEAUTY ที่งบฯออกมาแย่ก็ทำให้ราคาหุ้นปรับตัวลงไปแรง ส่วนในทางเทคนิคแสดงให้เห็นภาพของการย่ำฐานเล็กน้อยหลังทะลุ 1,667 จุดขึ้นไปได้แต่ยังติดแนวต้าน 1,670 จุดอยู่
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (27 ก.พ.) น.ส.จิตรา กล่าวว่า ภาพตลาดฯคงเป็นลักษณะของการของซิกแซกขึ้น ซึ่งยังมองตลาดฯเป็นบวกอยู่ เพียงแต่อาจมีพักฐานบ้างเป็นระยะ แต่พรุ่งนี้ตลาดอาจเป็นลักษณะ Wait & See จากปัจจัยทางการเมือง ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาเรื่องการยุบพรรคไทยรักษาชาติ บางส่วนอาจต้องการอดูความชัดเจนเรื่องนี้ก่อน
พร้อมให้แนวรับ 1,660 จุด ส่วนแนวต้าน 1,680 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
BEAUTY มูลค่าการซื้อขาย 4,198.47 ล้านบาท ปิดที่ 6.95 บาท ลดลง 1.25 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,768.15 ล้านบาท ปิดที่ 49.00 บาท ลดลง 0.75 บาท
PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 2,321.67 ล้านบาท ปิดที่ 73.25 บาท ลดลง 1.00 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,956.48 ล้านบาท ปิดที่ 183.50 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,643.65 ล้านบาท ปิดที่ 80.00 บาท ลดลง 0.25 บาท