นายวินัย เตียวสมบูรณ์กิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป (TFG) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 62 คาดว่ายอดขายและรายได้มีโอกาสทำสถิติสูงสุดใหม่ จากปริมาณขายทั้งในและต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น หลังจากที่บริษัทฯพยายามเจาะตลาดใหม่ๆ และส่งสินค้าใหม่ที่มีอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) สูง เข้าไปบุกตลาดต่างประเทศ ซึ่งมีดีมานด์เป็นจำนวนมาก
โดยในช่วงที่ผ่านมาได้มีการขยายการลงทุนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และขีดความสามารถการแข่งขัน รองรับการเติบโตที่แข็งแกร่งและยั่งยืนในอนาคต โดยตั้งงบประมาณสำหรับการขยายการลงทุนไว้ไม่เกิน 1,000 ล้านบาทในปีนี้
"นอกเหนือจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นจากการเพิ่มกำลังการผลิต และการขยายตลาดส่งออกใหม่ๆในต่างประเทศ ที่ให้มาร์จิ้นในสัดส่วนสูง ปีนี้เรายังได้รับปัจจัยหนุนจากราคาเนื้อไก่และสุกร ที่อยู่ในช่วงขาขึ้น ทำให้ผลประกอบการน่าจะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ"นายวินัยกล่าว
ขณะเดียวกันธุรกิจอาหารสัตว์ในปีนี้ คาดว่าจะเติบโตอย่างโดดเด่น หลังจากที่บริษัทฯได้มีการเพิ่มกำลังการผลิตอาหารสัตว์ เพื่อขายให้กลุ่มลูกค้านอกเครือมากขึ้น
TFG ยังให้ความสำคัญกับกลยุทธ์ลดต้นทุนจากการบริหารจัดการให้ดีขึ้น เช่น การบริหารจัดการการเก็บสินค้าคงเหลือ การบริหารจัดการระบบการขนส่ง การจัดการสั่งซื้อวัตถุดิบและอุปกรณ์ เป็นต้น ขณะเดียวกันบริษัทฯยังลดต้นทุนจากการเพิ่มประสิทธิภาพของไลน์ผลิตจากการลงทุนในเครื่องจักร Automation ซึ่งจะทำให้บริษัทฯมี Cost Saving เกิดขึ้นจากการดำเนินการและเริ่มเห็นผลตั้งแต่ต้นปี 62
"ปีที่ผ่านเราได้เตรียมพร้อมสำหรับการสร้างมูลค่า (Value) ให้กับไทยฟู้ดส์ ซึ่งในปีนี้จะเริ่มเก็บเกี่ยวสิ่งที่เกิดขึ้นจากการลงทุน ไม่ว่าจะเป็นโรงอาหารสัตว์ใหม่ ที่เตรียมเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 190,000 ตัน/เดือน เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา กำลังการผลิตอยู่ที่ 120,000 ตัน/เดือน และเตรียมบุกตลาดมากขึ้น"
โดยปัจจุบันมีปริมาณขายนอกเครือเพียง 20% และตั้งเป้าในช่วง 2-3 ปี ข้างหน้าสัดส่วนขายนอกเครือจะเพิ่มขึ้นเป็น 50%
ในส่วนของโรงงานไก่ปรุงสุก ในปีนี้จะเป็นพระเอก ชูโรงช่วยผลักดันรายได้ของบริษัทฯ ให้เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ โดยในปัจจุบันมีออเดอร์ของลูกค้าจากต่างประเทศเข้ามาเป็นจำนวนมาก
นอกจากนี้ ในส่วนของโรงฟักลูกไก่ ที่ได้ขยายการลงทุนในปีที่ผ่านมา เพื่อเพิ่มความสามารถในการผลิตลูกไก่ได้มากขึ้น รวมถึงการเพิ่มผลผลิต จากแม่สุกร ที่สามารถผลิตลูกสุกรได้มากขึ้น และการสูญเสียที่น้อยลง จากการนำเทคโนโลยีจากต่างประเทศมาใช้ ส่งผลให้สามารถส่งลูกไก่ และลูกสุกร ป้อนตลาดได้มากขึ้น
สำหรับผลการดำเนินงานในปี 61 บริษัทฯมีรายได้รวม 28,410 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 645 ล้านบาท