โบรกฯเชียร์"ซื้อ"CPALL เล็งผลประกอบการโตดีต่อเนื่องจากยอดขายสาขาเดิม-ใหม่ พร้อมแผนขยายสาขาไปลาว-กัมพูชา

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday February 27, 2019 14:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์ต่างเชียร์"ซื้อ"หุ้น บมจ.ซีพี ออลล์ (CPALL) เล็งผลประกอบการเติบโตดีต่อเนื่อง จากยอดขายสาขาเดิม (SSSG) และการขยายสาขา 700 สาขา/ปี รวมถึงผลประกอบการของ MAKRO ที่ค่อย ๆ ฟื้นตัวขึ้น

นอกจากนี้ ยังมีแผนขยายกิจการเข้าไปยังประเทศลาว และกัมพูชา ซึ่งมีการเติบโตทางเศรษฐกิจสูง ตอนนี้อยู่ระหว่างศึกษา Term และ condition ต่าง ๆ คาดจะเห็นความคืบหน้าการขอ License ภายในไตรมาส 2/62

พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิปี 62 จะเติบโตในช่วง 15.4-18.7% จากปีก่อน

ราคาหุ้น CPALL ปิดเที่ยงวันนี้ 79 บาท ลดลง 1.00 บาท (-1.25%) ขณะที่ SET +0.24%

          โบรกเกอร์                               คำแนะนำ         ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น)
          เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย)                 ซื้อ                   86
          ฟินันเซีย ไซรัส                               ซื้อ                   90
          เคที ซีมิโก้                                  ซื้อ                   85
          ฟิลลิป (ประเทศไทย)                          ซื้อ                   90
          ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย)                 ซื้อ                   81
          เคทีบี (ประเทศไทย)                          ซื้อ                   85

น.ส.สุทธาทิพย์ พีรทรัพย์ นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า แนวโน้มกำไรสุทธิเติบโตดีต่อเนื่อง จากยอดขายจากสาขาเดิม (SSSG) ของร้านเซเว่นฯ เติบโต 2-3% และการขยายสาขา 700 สาขา/ปี และผลประกอบการของ MAKRO ที่ค่อย ๆ ฟื้นตัวขึ้น

นอกจากนั้น CPALL ยังอยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญาสำหรับการได้รับสิทธิแฟรนไชส์ในการจัดตั้งและดำเนินการร้านเซเว่นฯ ในกัมพูชาและลาว โดยคาดว่าอาจจะมีการเข้าทำสัญญาแฟรนไชส์ (Master Franchise Agreement) ภายในไตรมาส 2/62 ซึ่งหากสามารถดำเนินการเปิดสาขาในประเทศดังกล่าวได้ก็น่าจะส่งผลดีต่อบริษัทฯ ในอนาคต

"เรามองว่าหากได้ไลเซ่นส์ และเริ่มทยอยเปิดสาขาในช่วงแรก 1-2 ปี คงไม่ได้มี Impact อะไรมาก ด้วยสาขาในประเทศไทยที่มีค่อนข้างมากกว่า 1 หมื่นสาขา เมื่อเทียบกับต่างประเทศแล้วถือว่าต่างประเทศยังมีสัดส่วนที่ค่อนข้างน้อยมาก ซึ่งน่าจะเห็นการเติบโตของรายได้อีกสักระยะหนึ่ง"

นอกจากนี้ มองแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/62 น่าจะเติบโตต่อเนื่อง จากการขยายสาขาเพิ่มขึ้น แต่อย่างไรก็ตามยังต้องรอดูธุรกิจเคาน์เตอร์เซอร์วิสว่าจะสามารถรักษารายได้ไม่ให้อ่อนตัวลงไปได้หรือไม่ เนื่องจากปัจจุบันมีการแข่งขันสูง

ด้าน น.ส.สุรีย์พร ทีวะสุเวทย์ ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส คาดการณ์กำไรสุทธิปีนี้จะเติบโต 15.4% จากปีก่อนที่เติบโต 5% จากฐานที่ต่ำในปีก่อน ประกอบกับ กำลังซื้อเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น และน่าจะเห็นการออกสินค้าใหม่ ๆ ที่เข้ามาเพิ่มมาร์จิ้น ส่งผลดีต่อยอดขายต่อสาขาเดิม (SSSG) น่าจะเติบโตต่อเนื่องได้ ขณะที่คาดกำไร MAKRO อาจทรงตัวถึงปรับขึ้นเล็กน้อย 2-3% จากปีก่อนที่ติดลบ เนื่องจากยังมีการเปิดสาขาในต่างประเทศมากขึ้นอยู่

ส่วนการที่บริษัทได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงเบื้องต้นได้รับสิทธิแฟรนไชส์หลักในการดำเนินธุรกิจ 7-11 ในกัมพูชาและลาวจาก 7-Eleven, Inc แล้วเมื่อ 29 ม.ค.ที่ผ่านมา ปัจจุบันดีลยังไม่แล้วเสร็จ ยังอยู่ระหว่างการศึกษาและคาดจะลงนามในสัญญาแล้วเสร็จได้ภายในไตรมาส 2/62 ซึ่งน่าจะเห็นถึงแผนการดำเนินงานของการลงทุนในประเทศดังกล่าวได้หลังจากนั้น โดยมองว่าในช่วงแรกของการลงทุนน่าจะยังไม่เห็นรายได้เข้ามา แต่เชื่อว่าในปีหน้าเป็นต้นไปน่าจะเริ่มเห็นรายได้เข้าจกสาขาในลาวและกัมพูชาเข้ามา

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ยังเป็นความเสี่ยงของ CPALL ในปีนี้ คือ สถานการณ์การเมืองไทยหลังการเลือกตั้งว่าจะส่งผลต่อกำลังซื้อของคนในประเทศอย่างไร และราคาสินค้าเกษตร และการขยายสาขาที่มีขนาดใหญ่ขึ้น

สำหรับบทวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุว่า ยอดขายจากสาขาเดิม (SSSG) คาดจะเพิ่มขึ้นประมาณ 2.75% ในปีนี้ และจะสามารถขยายสาขาต่อปีได้ 700 สาขา ซึ่งจะให้กำไรสุทธิจะเติบโตต่อเนื่องในปีนี้ที่ 23,700 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.7% จากปีก่อน ขณะเดียวกันยังมีแผนที่จะขยายกิจการเข้าไปยังประเทศลาว และกัมพูชา ซึ่งมีการเติบโตทางเศรษฐกิจสูง ขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษา Term และ condition ต่าง ๆ คาดจะเห็นความคืบหน้าการขอ License ภายในไตรมาส 2/62


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ