กระทรวงการคลังและกระทรวงพลังงาน ได้ข้อสรุปการคิดอัตราค่าเช่าท่อก๊าซกับ บมจ.ปตท.(PTT) ในลักษณะขั้นบันไดในอัตราขั้นต่ำ 5% ของรายได้ ซึ่งจะขยับขึ้นทีละ 5% ไปจนถึงสูงสุด 35% โดยผันแปรไปตามรายได้ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งประเมินจากรายได้ในปัจจุบันของ ปตท.เพื่อคิดเป็นค่าเช่าขั้นต่ำคือ ปีละ 180 ล้านบาท และสูงสุดไม่เกิน 550 ล้านบาท ขณะที่ ปตท.จะต้องจ่ายค่าเช่าย้อนหลังในปี 44-49 ราว 2-3 พันล้านบาท
นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันท์ รมว.พลังงาน กล่าวภายหลังการหารือร่วมกับนายฉลองภพ สุสังกร์กาญจน์ รมว.คลัง ในช่วงเย็นวันนี้ว่า หากเริ่มต้นที่ฐานรายได้จากท่อก๊าซที่ ปตท.ประเมิน 3,600 ล้านบาท/ปี โดยคิดค่าเช่าท่อก๊าซในอัตราขั้นต่ำ 5% และจะขยับอัตราขึ้น 5% ของรายได้ทุก 200 ล้านบาทที่เพิ่มขึ้น
หากกระทรวงการคลังเชื่อที่ ปตท.แจ้งฐานรายได้ก็สามารถชำระค่าเช่าได้เลยทันที แต่ทางกระทรวงการคลังขอเวลาไปตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้ง ซึ่งการหักค่าใช้จ่ายเป็นไปตามที่ได้ตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ รายได้ในอนาคตยังบอกไม่ได้ แต่ค่าผ่านท่อที่ ปตท.คิดกับผู้ใช้ก๊าซมีโอกาสปรับเพิ่มขึ้น แต่ได้รวมคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อไว้แล้ว ซึ่งอย่างน้อยรายได้ของกระทรวงการคลังจะปรับเพิ่มขึ้นโดยอัตโนมัติตามเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นอยู่แล้ว
ด้าน นายอานนท์ ศิริแสงทักษิณ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานกลยุทธ์และพัฒนาองค์กร ปตท.กล่าวว่า เงินก้อนแรกที่ ปตท.ต้องจ่ายย้อนหลังจากปี 44-49 ตามประมาณการเดิมอยู่ที่ 2-3 พันล้านบาท ซึ่งรวมดอกเบี้ยและค่าปรับแล้ว ถ้ารายได้เพิ่มขึ้นก็แปลว่าค่าเช่าก็ต้องปรับเพิ่มขึ้นตาม
--อินโฟเควสท์ โดย อภิญญา วุฒิเมธากุล/ศศิธร/ธนวัฏ โทร.0-2253-5050 ต่อ 325 อีเมล์: tanawat@infoquest.co.th--