นายพระนาย กังวาลรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการ บมจ.เพาเวอร์ โซลูชั่น เทคโนโลยี (PSTC) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมปี 62 จะเติบโต 20% จากปีก่อน เป็นไปตามการเติบโตของ 3 ธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจออกแบบ จำหน่าย และติดตั้งระบบจ่ายไฟฟ้า ซึ่งปีนี้คาดว่าจะมีรายได้เติบโตประมาณ 15-20% จากปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ (Backlog) มูลค่ารวมประมาณ 1,000 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการจัดให้มีบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่ห่างไกล (USO NET) เฟส 2 ซึ่งบริษัทได้รับงานซัพพลายเออร์อุปกรณ์ให้กับผู้ชนะประมูลมาแล้วทั้งหมด 5 โซน มูลค่ามากกว่า 300 ล้านบาท และงานบมจ.ทีโอที มูลค่ามากกว่า 100 ล้านบาท รวมถึงงานประเภท Internet of Thing (IOT) มูลค่ามากกว่า 300 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างรอทราบผลประมูลงานใหม่ ทั้งภาครัฐและหน่วยงานภาครัฐ มูลค่ารวม 1,000-2,000 ล้านบาท โดยในช่วงปลายเดือนมี.ค.62 น่าจะเห็นความชัดเจนของงานติดตั้งอุปกรณ์ของรัฐวิสาหกิจ มูลค่า 342 ล้านบาท
นอกจากนี้ ธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า ปัจจุบันมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) อยู่ที่ 70 เมกะวัตต์ (MW) และมีการจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ไปแล้ว 30 เมกะวัตต์ โดยปีนี้คาดจะ COD เพิ่มอีก 5.6 เมกะวัตต์ ในช่วงไตรมาส 1/62 ในโครงการโรงไฟฟ้าชีวภาพ จ.สุพรรณบุรี ขณะที่มีเป้าหมายจะ COD ได้ครบ 70 เมกะวัตต์ ในปี 64 ขณะเดียวกัน บริษัทจะขยายธุรกิจไปสู่การทำโซลาร์รูฟท็อปในรูปแบบ Private PPA หรือสัญญาระหว่างเอกชนด้วยกันในการจำหน่ายไฟฟ้า โดยตั้งเป้าในปีนี้จะจำหน่ายไฟฟ้าได้ประมาณ 20 เมกะวัตต์ และเพิ่มเป็น 100 เมกะวัตต์ ในปี 64 ตั้งงบลงทุนต่อปีไว้ที่ 400-500 ล้านบาท
ขณะเดียวกันก็อยู่ระหว่างมองหาโอกาสในการลงทุนโรงไฟฟ้าทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดหวังอัตราผลตอบแทนจากการลงทุน (IRR) ที่ 12%
นายพระนาย กล่าวอีกว่า สำหรับธุรกิจจำหน่ายและขนส่งผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมเหลว ซึ่งดำเนินธุรกิจภายใต้บริษัท บิ๊กแก๊ส เทคโนโลยี จำกัด (BIGGAS) โดย PSTC ถือหุ้นในสัดส่วนอยู่ที่ 51% คาดว่าผลการดำเนินงานในปี 62 จะเติบโตได้ 25% เป็นไปตามการจำหน่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) และก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (NGV) ภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น รวมถึงจะมียอดขายจาก ก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ที่ประมาณ 100 ล้านบาท
พร้อมกันนี้ BIGGAS มีแผนขายหุ้นในสัดส่วนประมาณ 30-35% ในบจ.ไทยไปป์ไลน์ เน็ตเวิร์ค จำกัด (TPN) หลังจากก่อนหน้านี้ได้ขายหุ้นออกไปให้กับนักลงทุนชาวจีน ในสัดส่วน 8% แล้ว ซึ่งก็อยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรที่มีความต้องการซื้อหุ้นจำนวน 1-2 ราย คาดว่าจะสรุปได้ในไตรมาส 2/62
ขณะที่บริษัทยังคงเป้าหมายที่จะนำ BIGGAS เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯในปี 63