(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งไซด์เวย์ อิงขาขึ้น เล็งแรงหนุนจากกลุ่มพลังงานหลังราคาน้ำมันดีดขึ้น

นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่ง Sideway up ในช่วงรอดูความชัดเจนการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น ขณะเดียวกันการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในหลายตลาดก็เกือบจะสิ้นสุดแล้ว รวมถึงตลาดหุ้นไทยด้วย ทำให้แรงเหวี่ยงตลาดฯน้อยลง

ส่วนเรื่องปัจจัยการเมืองในประเทศ ตลาดฯรับรู้และเริ่มตีความการเมือง ซึ่งคนเริ่มเห็นภาพการเมืองที่ชัดเจนขึ้น การปรับตัวลงของตลาดฯจึงน้อยลง และขณะนี้เริ่มกลับหันมามองตลาดหุ้นไทยมากขึ้น สังเกตุเห็นหุ้นขนาดใหญ่เริ่มขยับขึ้น นอกจากนี้ยังได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันที่เริ่มดีดกลับขึ้นมา ทำให้ไปช่วยหนุนหุ้นในกลุ่มพลังงาน

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบเล็กน้อย โดยขณะนี้จะต้องจับสถานการณ์ระหว่างอินเดีย และปากีสถาน รวมถึงติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการต่อไป

พร้อมให้แนวรับ 1,660 จุด ส่วนแนวต้าน 1,675 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

• ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (27 ก.พ.62) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,985.16 จุด ลดลง 72.82 จุด (-0.28%) ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,792.38 จุด ลดลง 1.52 จุด (-0.05%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,554.51 จุด เพิ่มขึ้น 5.21 จุด (+0.07%)
• ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 19.96 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 3.77 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 37.73 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 3.21 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 0.21 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 1.93 จุด

ส่วนตลาดหุ้นไต้หวัน ปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันรำลึกสันติภาพ

• ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (27 ก.พ.62) 1,665.27 จุด เพิ่มขึ้น 1.71 จุด (+0.10%)
• นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 639.96 ล้านบาท เมื่อวันที่ 27 ก.พ.62
• ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน เม.ย. ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (27 ก.พ.62) ปิดที่ 56.94 ดอลลาร์/บาร์เรล พุ่งขึ้น 1.44 ดอลลาร์ หรือ 2.6%
• ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (27 ก.พ.62) ที่ 3.83 ดอลลาร์/บาร์เรล
• เงินบาทเปิด 31.47 อ่อนค่าจากวานนี้ เกาะกลุ่มตลาดเกิดใหม่ จับตาแรงซื้อดอลล์สิ้นเดือน-ตัวเลข GDP สหรัฐ
• ศาล รธน.พิจารณาคดียุบพรรค ทษช. ระบุจะไม่ทำการไต่สวน เนื่องจากมีพยาน หลักฐานเพียงพอ ที่จะพิจารณาได้ นัดฟังคำวินิจฉัย 7 มี.ค. ด้าน "เรืองไกร" ยื่น กกต. ส่งศาล รธน.วินิจฉัย "ประยุทธ์" เป็นหัวหน้าคสช. เข้าข่ายเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ ขาดคุณสมบัติเป็นแคนดิเดตนายกฯ หรือไม่ ด้าน "เสรีพิศุทธ์" ทวงถาม กกต. ปมยื่นยุบพรรค พปชร. เหตุเสนอ คนปฏิวัติเป็นแคนดิเดตนายกฯ บี้ให้ใช้มาตรฐานเดียวกันกับยุบพรรค ทษช. ขีดเส้น 1 อาทิตย์ไม่คืบ เล่นงาน กกต. "ธนาธร" รอด อัยการไม่ฝากขัง นัดฟังคำสั่งคดีผิด พ.ร.บ.คอมพ์ ใส่ร้าย คสช. 26 มี.ค.
• "แบงก์ชาติ" แจงมาตรการ "แอลทีวี" คุมสินเชื่อหวังช่วยลดดีมานด์เทียม หนุนผู้ต้องการซื้อบ้านเข้าถึงที่อยู่อาศัยในราคาที่เป็นธรรมมากขึ้น พร้อมช่วยคุมคุณภาพสินเชื่อแบงก์พาณิชย์ด้วย ย้ำเป็นมาตรการป้องกัน ลดความเสี่ยงเศรษฐกิจระยะยาว
• การบินไทย แจ้งยกเลิกเที่ยวบินที่ทำการบินไปยังปากีสถาน และเที่ยวบินยุโรป 11 จุดบิน เนื่องจากการประกาศปิดน่านฟ้าปากีสถานกะทันหันจากสาเหตุของความขัดแย้งระหว่างกับอินเดียทวีความรุนแรง ทั้งสองฝ่ายสั่งให้ทหารโจมตีทางอากาศใส่ดินแดนอีกฝ่ายตลอด 2 วันที่ผ่านมา
• บริษัทเอกชน 8 ราย เข้าซื้อซองชิงสัมปทาน 30 ปี งานโอแอนด์เอ็มมอเตอร์เวย์ สายบางปะอิน-นครราชสีมา และบางใหญ่-กาญจนบุรี มูลค่า 6.1 หมื่นล้านบาทวันแรก ตั้งเป้ากลางปีเปิดข้อเสนอ เคาะผู้ชนะไม่เกิน พ.ย. ก่อนชง ครม.อนุมัติลงนามสัญญา ธ.ค.นี้
• "คลัง" รับส่งออก ม.ค.62 ติดลบ 5.7% สูงกว่าคาดการณ์ มองทั้งปีโตตามเป้าหมาย 4.5% ลุ้นพาณิชย์ออกมาตรการดันสุดลิ่ม ปลื้มรายได้ท่องเที่ยวพุ่ง หลังยอดนักท่องเที่ยวจีนกลับไทยพีกสุดรอบ 7 เดือน

*หุ้นเด่นวันนี้

• TOP (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 90 บาท ผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว คาดงบ Q1/62 พลิกเป็นบวกจากค่าการกลั่นเริ่มฟื้นตัวสู่ระดับ 3.3$/bbl เทียบกับช่วงต้นปีอยู่ที่ระดับ 1.5$/bbl ในช่วงต้นปี นอกจากนี้ คาดว่าจะมีกำไรจากสต๊อกน้ำมันดิบหลังจากราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นจากระดับ 40$/bbl สู่ระดับ 55-60$/bbl ในปัจจุบัน
• BAFS (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 40 บาท กำไร Q4/61 ตามคาดที่ 181 ลบ. +10% Y-Y จบปี 2561 มีกำไรสุทธิ 1,051 ลบ. +8% Y-Y ที่น่าสนใจคือ ปันผลงวด H2/61 จ่าย 1.14 บาท/หุ้น (สูงสุดเป็นประวัติการณ์) Yield 3.3% ขึ้น XD 2 พ.ค. 62 ทั้งที่ BAFS อยู่ในช่วงลงทุนท่อขนส่งน้ำมันสายเหนือ สะท้อนมุมมองผู้บริหารที่คาดว่าจะคุ้มทุนเร็ว และล่าสุดกลุ่ม ปตท. จะเข้ามาร่วมใช้ท่อนี้ด้วย เพราะราคาถูกกว่าขนทางรถ 30%
• ANAN (เมย์แบงก์ กิมเอ็ง) "ซื้อเก็งกำไร"เป้า 5.05 บาท เพื่อสะท้อนทิศทางของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่ยังมีความผันผวนสูงและการปรับตัวของกลุ่มจากผลกระทบของ LTV ใหม่ตั้งแต่ 1 เม.ย.2562 เป็นต้นไปรวมทั้งสะท้อนผลประกอบการของ ANAN ที่คาดว่าจะไม่ก้าวกระโดดอย่างในปี 2561 โดย ANAN ประกาศเงินปันผลของ H2/61 ที่ 0.139 บาท/หุ้น (รวมทั้งปี 0.254 บาท/หุ้น) ผลตอบแทนจากเงินปันผล 3.7%