นางสาวพรพิมล ต่อไพบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.โกลบอล คอนเน็คชั่นส์ (GC) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 62 เติบโต 8-10% จากปีก่อน โดยบริษัทมีแผนการใช้ฐานข้อมูลของลูกค้าให้เกิดประโยชน์มากขึ้น เพื่อหาโอกาสในธุรกิจใหม่ที่เหมาะสม และจะมีการขยายฐานลูกค้าอย่างต่อเนื่อง จากเดิมมีฐานข้อมูลลูกค้ามากกว่า 2 พันราย โดยมองว่าปัจจุบันบริษัทยังมีส่วนแบ่งการตลาดไม่มากนัก จึงมีโอกาสขยายเพิ่มเติมได้อีกมาก อย่างไรก็ดี บริษัทยังเน้นการขยายธุรกิจในประเทศเป็นหลัก
ขณะเดียวกัน บริษัทจะเน้นการระบายสินค้าคงคลังให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม โดยบริหารจัดการการขายให้มีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งวางงบลงทุนขยายคลังสินค้าเพิ่มเติมราว 25 ล้านบาท ซึ่งรสร้างคลังบนที่ดินที่เหลืออยู่ราว 3 ไร่ จากเดิมมีพื้นที่จัดเก็บสินค้าทั้งหมดราว 7 พันตารางเมตร
บริษัทยังจะเน้นการสร้างคุณค่าและนวัตกรรมเพื่อเพิ่มคุณสมบัติผลิตภัณฑ์ โดยจะมีการวิจัยและพัฒนา (R&D) ร่วมกับลูกค้า จากที่ก่อนหน้านี้บริษัทลงทุนสร้างห้องแล็ปไปแล้ว ซึ่งการพัฒนาสินค้าใหม่ ๆ จะเน้นไบโอพลาสติกที่กำลังอยู่ในเทรนด์ โดยปัจจุบันเริ่มมีความต้องการ (requirement) เข้ามาบางส่วนจากลูกค้าที่ผลิตสินค้าเพื่อส่งออกไปยังตลาดยุโรป
นอกจากนี้ บริษัทยังมองหาธุรกิจใหม่ ๆ ทั้งธุรกิจที่ไม่เกี่ยวเนื่องและธุรกิจที่ต่อยอดจากธุรกิจเดิมอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดบริษัทมีความสนใจทำโครงการใหม่ร่วมกับพันธมิตรในการใช้ของเสียจากกระบวนการผลิตของลูกค้าให้สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ (recompound) เพื่อสร้างการเติบโตให้บริษัท
น.ส.พรพิมล กล่าวอีกว่า สำหรับแนวโน้มราคาน้ำมันในปี 62 มองว่าคงจะไม่เพิ่มขึ้นไปสู่ระดับสูงสุดของปีก่อน เนื่องจากมีปัจจัยลบมากกว่าปัจจัยบวก ซึ่งปัจจุบันกำลังการผลิตน้ำมันโดยรวมของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นในระดับสูงและมีต้นทุนที่ค่อนข้างต่ำกว่าตลาด ประกอบกับความขัดแย้งในอิหร่านยังไม่ส่งผลต่อกำลังการผลิตอย่างชัดเจน แต่แนวโน้มของความต้องการใช้น้ำมันก็ยังไม่ชัดเจน เนื่องจากสงครามการค้ายังไม่สิ้นสุดและอัตราดอกเบี้ยยังมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น
ส่วนอัตราแลกเปลี่ยนคาดว่าจะมีความผันผวนกว่าปีก่อน เนื่องจากสงครามการค้ายังมีความยืดเยื้อ และการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปของอังกฤษ (brexit) ยังไม่ชัดเจน รวมถึงมีความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ และเศรษฐกิจโลกยังไม่ได้ฟื้นตัวชัดเจนมากนัก คาดว่าอาจมีผลกระทบต่อบริษัทจากที่ผ่านมามีสัดส่วนการนำเข้ากว่า 37% ซึ่งบริษัทมีการทำประกันความเสี่ยงค่าเงิน (forward) และไม่มีการเก็งกำไรค่าเงิน