นายธีระชัย ธีระรุจินนท์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ไทยอุตสาหกรรมพลาสติก (1994) (TPLAS) เปิดเผยถึงแผนการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ในปี 62 ว่า บริษัทยังคงมุ่งมั่นที่จะก้าวสู่การเป็นผู้นำทางด้านอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์เกี่ยวกับอาหาร ที่ทันสมัย และมีคุณภาพสูง รวมถึงมีความหลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในประเทศ และภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยบริษัทตั้งเป้าหมายอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า15%
ทั้งนี้ บริษัทเตรียมผลิตสินค้าใหม่ ซึ่งเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ประเภทบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยเบื้องต้นคาดว่าจะเริ่มทดลองตลาดช่วงต้นปี 62 ส่งผลให้ในอนาคตบริษัทสามารถกระจายความเสี่ยงของรายได้ จากเดิมที่บริษัทฯมีรายได้จากยอดขายผลิตภัณฑ์ถุงพลาสติกและฟิล์มถนอมอาหารเท่านั้น
ขณะที่บริษัทยังคงมุ่งเน้นทำการตลาดในกลุ่มลูกค้าเดิม และขยายฐานไปยังกลุ่มอุตสาหกรรมรายใหม่ๆ อาทิ อุตสาหกรรมอาหาร ห้างสรรพสินค้า หรือ Modern Trade และโรงแรม เนื่องจากสินค้าชนิดนี้ยังเป็นที่ต้องการของตลาด ด้านอุปโภคและบริโภค ซึ่งถือว่ามีความต้องการใช้สูง และยังเป็นสินค้าที่สามารถนำมาทดแทนผลิตภัณฑ์เดิมๆที่มีอยู่ในท้องตลาดได้
สำหรับความคืบหน้าการดำเนินการขยายอาคารโรงงานใหม่และการติดตั้งเครื่องจักรใหม่เพื่อผลิตผลิตภัณฑ์ถุงพลาสติก และปรับปรุงอาคาร โรงงานเดิม รวมถึงสำนักงานบริษัทฯ เพื่อรองรับความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์จากถุงพลาสติกและการขยายตลาดนั้น ปัจจุบัน อาคารโรงงาน ได้มีการปรับพื้นที่เตรียมการก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ในขณะที่อาคารสำนักงานมีคืบหน้าไปกว่า 70% ซึ่งในเบื้องต้นคาดว่าการก่อสร้างจะดำเนินเป็นไปตามแผนงานที่กำหนดไว้ คาดว่าการก่อสร้างแล้วเสร็จทั้งหมดภายในปลายปี 62
อย่างไรก็ตาม หากอาคารโรงงานใหม่แล้วเสร็จจะสามารถรองรับกำลังการผลิตเพิ่มได้มากเกือบเท่าตัว หรือไม่น้อยกว่า 30% ปัจจุบันกำลังการผลิตรวมถุงพลาสติกประมาณ 10,200 ตันต่อปี และกำลังการผลิตฟิล์มยืดห่อหุ้มอาหาร ประมาณ 1,440 ตันต่อปี
ส่วนผลการดำเนินงานปี 61 บริษัทฯมีรายได้รวม 558.22 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.26 ล้านบาท หรือคิดเป็น 5.13% เมื่อเทียบกับปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 23.83 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.74 ล้านบาท หรือคิดเป็น 7.87% เมื่อเทียบจากปีก่อน เนื่องจากความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ถุงบรรจุอาหารและถุงหูหิ้ว พร้อมทั้งฟิล์มยืดห่อหุ้มอาหารยังคงมีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้า หรือ ผู้ประกอบการที่มีความจำเป็นในการใช้ผลิตภัณฑ์บรรจุอาหาร นอกจากนี้ TPLAS มีการวางกลยุทธ์ในการเจาะตลาดทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดไปยังกลุ่มซาปั๊ว รวมถึงกลุ่มลูกค้ารายใหม่ๆ เพิ่มขึ้น